Day3 โดรนใส่ปุ๋ยและวันเก็บเกี่ยวฝรั่ง

ตีห้าครึ่ง หมินจงเดินขึ้นมาถึงหน้าห้องพวกเรา

เพราะชัยชวนให้หมินจงมาเอาของที่ระลึก เป็นผ้าขาวม้า1ผืน

หมินจงถามว่า “มันใช้ทำอะไร”

เออนั่นสิ ตอบยากจริงๆ จริงๆมันก็ใช้ได้ทุกอย่าง เช็ดตัว นุ่งแทนกางเกง โพกหัว ห่มตัว มัดเอว

หมินจงก็งง ว่าทำไมมันสารพัดประโยชน์เช่นนี้

หมินจงพามาที่ทุ่งนาเดิมที่มาวันก่อน มาพบกับเพื่อนเค้า เป็นเจ้าของโดรน6ใบพัดใหญ่ๆอันนึง

โดรนนี้เพื่อนหมินจงให้ยืมมาลองใส่ปุ๋ยดู สามารถใส่ได้ทั้งปุ๋ยและยาทีละ 20 กก. แต่ต้องเป็นของเหลว

โดรนมีGPSติดอยู่ ตอนแรกเริ่ม เพื่อนหมินจงจะมาร์คตำแหน่งอาณาเขตนาข้าวที่อยากจะใส่ปุ๋ย โดยใช้แอพในSmart phone มาร์คจุดตามแผนที่ ทีนี้แอพนั้นจะวางแผนการบินของโดรนเป็นเส้นๆกลัับไปกลับไป ให้บินไปใส่ปุ๋ยทั่วทุกอณูของแปลงข้าว

พอเริ่มออกตัว เสียงดัง อย่างกะเฮลิคอปเตอร์น้อยๆ โดรนจะบินไปตามเส้นทางที่กำหนดมะกี้ เค้ากำหนดให้บินสูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร ระหว่างบินก็สเปรย์ปุ๋ยน้ำออกมาด้วย ฟุ้งกระจาย ต้นข้าวโบกสะบัดตามแรงลมของใบพัดโดรน

บินไปบินกลับจนกระทั่งปุ๋ยหมด ก็จะกลับมาเติมปุ๋ยใหม่ แล้วมันก็ฉลาดรู้ไปสเปรย์ต่อที่จุดสุดท้ายมะกี้ด้วย

ช่างเป็นการใช้โดรนได้มีประโยชน์มากๆ ใส่ปุ๋ยและยาให้ต้นข้าวเสร็จภายในไม่กี่นาที

คลิปวิดีโอโดรนบินใส่ปุ๋ย

ระหว่างปล่อยโดรนมันบินไป หมินจงโชว์รูปรวมหน้าของตัวเองที่มีทรงผมไม่ซ้ำกันซักแบบ

เห็นโจ๋ๆแบบนี้เขาก็เก่งเหมือนกันนะ อายุแค่นี้เอง ดูมุ่งมั่นตั้งใจ

เราแอบไปส่องfacebookมาเมื่อคืน หมินจงมักจะโพสนั่นนี่เหมือนคนไทยเรานั่นแหละ

แต่รูปที่เค้าโพสนั้นมันเป็นทุ่งนามั่งล่ะ รูปเค้ากำลังใช้เครื่องจักรใหญ่ๆวิ่งบนท้องนามั่ง

มีทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก แต่ให้ความรู้สึกว่าเป็นงานที่เค้าภาคภูมิใจ

แค่ดูเฟซบุคหมินจง เราก็รู้สึกภูมิใจในความเป็นเกษตรกรของตัวเองขึ้นมาเลย

มันน่าชื่นใจเวลาได้ทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกาย

แล้วผลผลิตมันก็ออกมาเป็นชิ้นเป็นอันให้คนอื่นได้กิน

เดือนหน้าหมินจงจะไปพัทยา เค้าอยากกินไอติมผัด

โอเค ถ้าแวะมาเที่ยวกทม.ด้วย เราสัญญาจะพาไปกิน

เสร็จจากการดูโดรน หมินจงพาไปเลี้ยงน้ำเลี้ยงหนมในเซเว่น แล้วขับรถพาเราไปหาเรนที่ออฟฟิซ

นี่ถ้าไม่ได้ขนมเซเว่นครั้งนั้น เราแย่แน่ๆเพราะงานต่อจากนี้มันเหนื่อยจริงๆ

ขอบคุณมากหมินจงเอ๊ย

ที่ออฟฟิซเรน จริงๆมันไม่ใช่แค่ออฟฟิซค่ะ มันเป็นโรงสีข้าว!!

เรนบอกว่าเดี๋ยวอีก 3 วัน จะให้พวกเรามาทำงานที่นี่…

แต่วันนี้จะไปช่วยพ่อของเรนเก็บส้มโอก่อน

เรนพามาที่สวนส้มโอของพ่อที่อยู่บนเนินเขา พามาส่งแล้วก็ขับรถออกไป ทิ้งเราไว้กับคนงานเก็บส้มโอคนอื่นๆ

หน้าที่เรามีแค่เด็ดส้มโอจากต้นแล้วโยนลงถัง แค่นั้นเลย แต่มันก็ไม่ง่ายนะ บางลูกก็สูงต้องปีนป่าย แถมปลูกบนทางลาดเอียงบนเนินเขาด้วย ทำให้ต้องเดินขึ้นลงเนินกันใหญ่ บางทีโยนลงถังแล้วถังดันคว่ำเพราะพื้นมันเอียง ก็วิ่งตามเก็บส้มโอที่กลิ้งลงเขาไปอีก

เราต้องโยนอย่างระมัดระวัง วางถังบนพื้นที่มั่นคง เพราะถ้าคว่ำทีนี่เหนื่อยหนักกว่าเดิม

เราได้ถ่ายรูปกิจกรรมกันช่วงแรกๆตอนที่ยังไม่เหนื่อย หลังจากนั้นไม่มีเรี่ยวแรงจะเปิดกล้องแล้ว ฮ่าๆ

นี่คือพ่อของเรน

มีนั่งพักคุยกับคุณป้าคนนึง คุณป้าช่วยนวดให้เปิ้ลด้วย เพราะสภาพหมดแรงมาก

แล้วชัยก็มานวดให้คุณป้าแทน ท่าทางจะชอบมาก

เราเก็บกัน 2-3 ชม. เหนื่อยที่สุดตั้งแต่มาที่นี่ ถังที่เต็มแล้วจะเอาส้มโอไปเทรวมที่ท้ายรถกระบะ

ระหว่างเก็บอยู่ ชัยก็เดินมาพูดว่า “เจิงจูหน่ายชา…”

โอ้ยยย ถูกต้อง หอบแฮกแบบนี้อยากกินเจิงจูหน่ายชา(ชานมไข่มุก)จริงๆ

ทำให้เราก็เพ้อถึงเจิงจูหน่ายชาไปด้วยเลย

เก็บไปได้ประมาณ3-4คันรถ ก็ถึงเวลาพักกินกลางวันเป็นข้าวกล่อง มีไ่ก่ย่างด้วย

กินอย่างหิวโหยเสร็จ เค้าก้อบอกว่า พวกเราไม่ต้องทำแล้ว เรนจะมารับกลับไป

ทันทีที่เปิดประตูรถเรน เราก็เจอบางอย่างอยู่ในถุง

อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาดังๆ “เจิงจูหน่ายชา!!!” เรนช่างรู้ใจกันสุดๆไปเลย

คำอธิษฐานหาเจิงจูหน่ายชา ที่พูดซ้ำแล้วซำเล่าก็เป็นผลสำเร็จ

เรนพาไปร้านคาเฟ่ซึ่งเคยเป็นสถานีรถไฟมาก่อน ชื่อว่า Jiudongli Train Station

แต่ไม่ได้พามากินหรอก เพราะพวกเรามีชานมไข่มุกของเรนถืออยู่ในมือแล้ว

เรนพาเดินทะลุออกไปหลังร้าน พบกับวิวอลังการของ ท้องฟ้า ภูเขา ทุ่งนา รางรถไฟ สถานีรถไฟ ชานชาลา และเก้าอี้นั่ง

เห็นองค์ประกอบภาพแล้วก็ไม่รู้จะถ่ายเก็บกลับไปยังไงได้หมด อยากถ่ายให้มันเหมือนกับตาเห็น แต่ไม่มีทางทำได้สำหรับเรา ถีงเลนส์กล้องโกโปรเราจะกว้าง ถ่ายติดได้ทุกอย่างยกเว้นอารมณ์ ดูรูปที่ถ่ายมาแล้วมันช่างไร้อารมณ์จริงๆ

อารมณ์ชิลๆ ลมเย็นๆ ละมุนละไม

นี่มันเป็นฉากบ้านนอกคอกนาในละครได้เลยนะเนี่ย !!

คิดแล้วก็อยากชวนพวกเพื่อนที่ชอบถ่ายรูปมาที่นี่ ช่วยถ่ายเราอยู่ในรูปแบบได้อารมณ์หน่อยเถอะ

ตอนนี้ได้แต่บอกตัวเองว่า ถ้าได้กลับมาFuliใหม่ จะมาที่นี่อีกรอบ

หรือถ้าต้องแนะนำสถานที่ให้เพื่อนที่มาไต้หวัน เราก็จะแนะนำจุดนี้ สวยขนาดนี้ต้องบอกต่อ

เรนคงตั้งใจให้เรามาพักเหนื่อย และชมสถานที่งามๆของ Fuli ด้วยก่อนจะกลับไปส่งที่บ้านเพจ

แผนที่ Jiudongli Train Station

One Comment

Leave a comment