วิธีเลือกคาร์ซีท และ tips ฝึกลูกนั่งคาร์ซีท | car seat tips

ทีนี้เราควรเลือกคาร์ซีทยังไงนะ

คาร์ซีทมีตั้งแต่พันสองพันบาท จนถึงสองสามหมื่น ถามว่าจำเป็นมั้ยต้องซื้อคาร์ซีทอันละเป็นหมื่น ส่วนตัวคิดว่าแต่ละครอบครัวควรเลือกที่เหมาะกะครอบครัวเราค่ะ คือถ้างบไม่เยอะ เราว่าไม่ซีเรียสนะ คือยี่ห้อดังๆ ดี ๆ อันเป็นหมื่นก็ดีแหละ วัสดุดีกว่า บางยี่ห้อมีการทดสอบการชนจริงๆ ก็ทำให้ดูน่าเชื่อถือกว่า แต่อย่างที่บอก เราควรซื้อตามงบที่เรามีค่ะ แน่นอนทุกคนรักลูกอยากให้ลูกปลอดภัย แต่ก็ควรเลือกอย่างพอดีค่ะ มีลูกค่าใช้จ่ายเยอะะะมากๆ อย่างที่ทุกคนรู้ ต้องเก็บตังค์ส่งเค้าเรียนหนังสืออีกน๊าา ..

สำหรับตัวเอง วางงบไว้ว่าจะขอเป็นแค่หลักพันค่ะ หลักหมื่นไม่ไหวค่า พนง.เงินเดือนอย่างเราเน้อ ..

มาดูประเภทของคาร์ซีทกันก่อนค่ะ อันนี้ข้อมูลมาจากเวบ tinyzone.tv นะคะ

– Rear-Facing Infant Seats and Convertible Seats คือ คาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ และแบบปรับเอนไปกับที่นั่ง เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 12 เดือน และเด็กที่น้ำหนักตัวไม่เกิน 10 กก. คาร์ซีทชนิดนี้จะปกป้องหัวของเด็ก ลำคอ และกระดูกสันหลังได้ดีที่สุด

– Forward-facing child seats คือ คาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ เหมาะกับเด็กที่มีอายุมากกว่า 1 ขวบและมีน้ำหนักตัวเกิน 9 กก.

– Booster seats คือ คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง ซึ่งเหมาะกับเด็กที่มีน้ำหนักตัว 15- 18  กิโลกรัม และ Booster seat แบบไม่มีพนักพิงด้านหลัง ซึ่งจะเหมาะกับเด็กที่มีน้ำหนักตัว 22 – 25 ก.ก.และสามารถนั่งตัวตรงได้แล้ว ซึ่งก็คือเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป

ตอนนี้ลูกเพิ่งขวบกว่าๆ ค่ะ เลยยังไม่เคยมีประสบการณ์กับ booster seat แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นจะราคาถูกกว่าสองแบบแรกค่ะ

สำหรับแบบกระเช้าสำหรับเบบี๋แรกเกิด อันนี้ได้มรดกตกทอดมาจากคุณพี่สาวของสามี อันนี้ยี่ห้อ cool kids หาได้ห้างทั่วไป เซนทรัลขายยี่ห้อนี้ประมาณ2000-5000 บาทค่ะ ลักษณะคือจะเป็นโครงพลาสติกทั้งอันหุ้มผ้าบุให้นิ่ม แต่อันนี้มันค่อนข้างแข็ง เราเลยซื้อเบาะรองเด็กมาใส่เพิ่มค่ะ เป็นแบบเดียวกะในรูปนี้เลยค่ะ ซื้อในเนต อันละ 250-300 จำราคาเป๊ะ ๆ ไม่ได้ ก็จะนิ่มขึ้น แล้วน้องนอนสบายขึ้นค่ะ

qg

กระเช้าสะดวกดีค่ะ เวลาขึ้นรถก็หิ้วลูกขึ้นรถทั้งกระเช้าเนี่ยแหละค่ะ แล้วรัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อยึดให้กระเช้าติดกับเบาะรถ ตอนน้องยังเล็กต้องหันหน้าเข้าเบาะรถนะคะ เด็กเล็กต้องหันเข้าเบาะค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บเยอะหากรถกระแทกแรง เด็กยิ่งเล็กน้ำหนักของส่วนหัว จะเยอะ (เทียบกับตัวซึ่งยังเล็กอยู่) จะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่คอได้ง่ายและอันตรายมาก แล้วเวลาพาลูกไปไหนก็หิ้วลงจากรถได้เลย สะดวกมาก ๆ ถ้ายี่ห้อแพงหน่อยกระเช้าจะสามารถวางติดกับรถเข็นได้เลยด้วยค่ะ (คือมันดีตรงที่ถ้าลูกหลับ ก็ไม่ต้องกลัวอุ้มลูกแล้วจะตื่น ก็ยกลูกมาทั้งกระเช้าเลยมาลงรถเข็น) แต่เราเน้นถูกไง เราเลยยอมย้ายลูกจากกระเช้าคาร์ซีทมาลงรถเข็นเอาก็ได้ 555

20140617_134235 20140823_192135

ข้อเสียของกระเช้าคือ … ถ้าลูกหนัก มันจะหนักมากกก คือของเราซักสามเดือนเราก็ว่าเราแบกกระเช้าไม่ไหวละ ขนาดคุณพ่อตัวใหญ่ยังเมื่อยแขนเลย ลูกก็ตัวเริ่มจะล้นกระเช้า เราเลยเริ่มมองหาคาร์ซีทตัวใหญ่ขึ้น เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องใช้อยู่ดี

อัพเกรดมาเป็น คาร์ซีทตัวใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะราคาถูกแพง คุณสมบัติเบสิกที่ควรมี คือตามนี้ค่ะ

1. สามารถหันได้สองด้าน สำหรับเด็กเล็ก เพื่อความปลอดภัยก็ยังควรจะติดตั้งคาร์ซีทให้หันหน้าเข้ากับเบาะอยู่ดีค่ะ ดังนั้นหลักการเลือกคาร์ซีท ถึงแม่จะงบไม่เยอะ ก็ควรต้องเลือกเป็นแบบที่สามารถติดตั้งได้ทั้งสองด้าน คือหันเข้าเบาะ (rear facing) และหันออก (forward facing) ถ้างบเยอะหน่อยก็มีแบบหมุนได้รอบเลย ประมาณว่าหมุนเข้าหาคุณแม่ให้อุ้มออกง่าย ๆ ป้อนนมได้ ฯลฯ ประมาณนี้ ดูสบายดีอ่ะ แต่ยี่ห้อส่วนใหญ่ที่หมุนได้รอบก็เป็นหมื่นค่ะ เกินงบ ตัดไป ไม่ต้องสบายมากก็ได้เน้ออ 🙂

2. ติดเข็มขัดง่าย (คิดสภาพลูกกะลังงอแง โวยวาย) ถ้าติดง่าย จะช่วยให้เราเอาลูกเข้าออกคาร์ซีทได้อย่างราบรื่นขึ้นด้วย

3. ใช้ได้สำหรับเด็กหนักกี่กก. พยายามเลือกเยอะๆ ค่ะ งกอะ จะได้ใช้ได้นาน ๆ รุ่นที่ใช้อยู่ สเปคบอกว่าใช้ได้จนถึง 18 กก. หรือประมาณ 3-4 ขวบ

4. ปรับเอนนอน ควรปรับนั่งได้ (ใช้สำหรับตอนโตสองขวบขึ้น) เอน 45 องศา (การนั่งเอนจะช่วยลดแรงกระแทกเวลารถชนได้ค่ะ) นอนได้

5. เบาะนุ่ม นั่งสบาย อันนี้ก็ช่วยให้ลูกชอบนั่ง และอยากนั่งบ่อย ๆ นั่งได้นานค่ะ

10730807_10154807719090106_8271092331969929663_n

นอกจากจะซื้อคาร์ซีทแล้ว อย่าลืมมองหาของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดรถไว้ด้วยค่ะ ไว้หลอกล่อให้ลูกนั่งคาร์ซีท บางทีการให้ลูกนั่งคาร์ซีทก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไปค่ะ แต่ท่องไว้ว่ามันปลอดภัยกว่า ๆ มันต้องฝึก ถ้าใจอ่อนบ่อย ๆ ลูกจะไม่ยอมนั่งค่ะ

วิธีฝึกลูกนั่งคาร์ซีท

1. พยายามให้กินให้อิ่ม นอนให้อิ่ม เปลี่ยนแพมเพิสไรให้เรียบร้อย ก่อนออกนอกบ้านที่ต้องนั่งคาร์ซีทค่ะ เพื่อลดโอกาสที่ลูกจะงอแง

2. ใจแข็งค่ะ คือบางบ้าน ลูกร้องปุ๊บยอมไม่ได้ ต้องอุ้มออกมา อันนี้เราว่าจะฝึกลูกนั่งยากมาก เพราะเค้าจะรู้ว่าร้องไห้แล้วได้ออกมามีคนอุ้ม  โดยธรรมชาติเด็กไม่ชอบหรอกค่ะนั่งคาร์ซีท แต่ทำบ่อย ๆ เค้าชินเองค่ะ

3. ปรับความเข้าใจกับคนที่บ้าน ทั้งสามี แล้วปู่ยาตายาย ว่าควรพูดให้กำลังใจเวลาลูกหลานนั่งคาร์ซีทได้ ไม่ควรพูด negative แบว่าเด็กไม่มีทางยอมนั่งหรอก เด็กไม่ชอบ งอแงเพราะเบื่ออะสิ งู้นงี้ เราว่าไม่ควรพูดค่ะ พอเด็กรู้เรื่องเยอะ อาจจะยิ่งแสบต่อรอง

4. พกของให้ลูกเล่นตอนนั่งคาร์ซีทค่ะ สิ่งที่เราใช้และเวิร์คมาก ๆๆๆ คือยางกัดกล้วยหอม คือชีวิตดีจริง ๆ คือเราจะยังไม่ให้ยางกัดค่ะ ให้นั่งเล่นไปซักพัก พอเริ่มหงุดหงิดจะแอ๊ะ ค่อยให้ ก็จะอยู่ได้อีกนานเลย พกตุ๊กตา หนังสือผ้า อะไรงี้ไปให้เค้าเล่นบนรถได้ค่ะ

20140907_194052

เอาใจช่วยคุณแม่ทุกคนค่ะ 🙂


Leave a comment