‘ราเมศ’แค่ลดบทบาท กล้าได้ของดีระดับโลก

“ราเมศ” ลั่น ปชป.คือชีวิต ประกาศลดบทบาทมือกฎหมายพรรค แสดงเจตจำนงลงเลือกตั้ง ส.ส.พังงา ปัดน้อยใจ “จุรินทร์” หนุนส่งคนอื่นลงแทน แต่ขอฟังบัญชา “เฉลิมชัย” คนเดียว ด้าน "กรณ์" เปิดตัว "พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ" สตาร์ทอัประดับโลก ลง ส.ส. สวนหลวง-ประเวศ

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  แถลงกรณีกระแสข่าวว่าตนจะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคประชาธิปัตย์คือชีวิต แต่การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองย่อมมีปัญหาอุปสรรค ที่ผ่านมาตนลงพื้นที่เขต 2 จ.พังงา ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นจากการไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของพรรคยังไม่มีผู้สมัครในเขตดังกล่าว ตามกระบวนการของพรรค ข้อบังคับพรรค ในฐานะที่ตนเป็นสมาชิกพรรค มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะใช้สิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค ตามข้อบังคับพรรค ข้อ 17 ที่ระบุว่า สมาชิกมีสิทธิขอเสนอตัวลงเลือกตั้งในนามพรรค ในการเลือกตั้งที่ราษฎรจะเป็นผู้เลือกทั้งหมด ตนได้ทำหนังสือแสดงเจตจำนงต่อ 2 ท่านคือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบภาคใต้  ในการเสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.พังงา

 “ที่ผ่านมาผมทำงานให้พรรคมาตลอด ระหว่างลงพื้นที่มีการปล่อยข่าวต่างๆนานา ว่ามีการกำหนดตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พังงา ทั้งที่ยังไม่มีการกำหนด ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการข้อบังคับพรรคและรัฐธรรมนูญ และมีการพูดถึงว่าไม่มีใครรู้จักผม ตรงนี้เป็นเหตุผลที่เปิดแคมเปญตามหาคนรู้จัก เพื่อพิสูจน์ให้พี่น้องเขต 2 พังงา ได้รู้ว่าผมคือลูกหลานของพี่น้องประชาชน และจะเดินไปพบพี่น้องให้ได้มากที่สุด ยังมีการยกเรื่องฐานะความเป็นอยู่ของผม เรื่องส่วนตัว ฐานะส่วนตัวว่าไม่มีฐานะร่ำรวย ไม่มีเงินมากมาย เป็นลูกชาวบ้าน ผมไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ เพราะป็นเรื่องจริง ผมเป็นลูกชาวบ้าน แสดงว่าผมเป็นฐานันดรเดียวกับชาวบ้านทุกครัวเรือนที่อยู่ในเขต 2 พังงา ผมไม่พูดว่าใครเป็นคนพูด แต่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าลูกชาวบ้านไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานให้พี่น้องประชาชน และถ้าเกิดเป็นลูกชาวบ้านแล้วสิ้นหวัง แล้วจะให้ชาวบ้านหวังอะไรได้ต่อจากนี้” นายราเมศกล่าว

 นายราเมศกล่าวต่อว่า เมื่อตนแจ้งความประสงค์จะลงพื้นที่เวลาทุกนาทีต่อจากนี้มีค่าที่สุด จึงจำเป็นต้องขอลดบทบาทเรื่องกฎหมายในส่วนกลางของพรรคลง ทุกอย่างที่ตนรับผิดชอบอยู่มีจำนวนมาก ทั้งคดีของพรรค และคดีส่วนตัวของแต่ละคน ทั้งที่อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลยุติธรรม ตนได้ส่งต่อทั้งหมดให้ผู้มีอำนาจหน้าที่เรียบร้อยแล้ว แต่งานกฎหมายของพรรคเรื่องใดที่ตนพอช่วยได้ ก็พร้อมรับคำสั่งจากนายเฉลิมชัยเท่านั้น ขอให้ท่านแจ้งมา ตนพร้อมที่จะทำงานตามบัญชาของท่าน

เมื่อถามว่า จะลาออกจากตำแหน่งโฆษกพรรคด้วยหรือไม่ นายราเมศกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ตำแหน่งโฆษกพรรคที่ประชุมใหญ่ของพรรคเลือกผมมา”              ถามว่า เหตุใดจึงฟังคำสั่งเฉพาะนายเฉลิมชัย แต่ไม่รับคำสั่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศกล่าวว่า การดำเนินงานภายในของพรรค เลขาธิการพรรคเป็นผู้บริหารจัดการเรื่องนี้

 “ท่านจุรินทร์เป็นนักการเมืองคนแรกที่ผมรู้จัก และวิ่งตามในสมัยที่หาเสียงในเขต 2 จังหวัดพังงา ไม่มีเหตุอันใดที่ผมจะไปขัดข้องหมองใจกับหัวหน้าพรรค ผมยังมีความเคารพในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าพรรค ไม่มีเหตุอะไรต้องน้อยใจ ผมอยู่พรรคมา 10 กว่าปี ผ่านอะไรมามากพอสมควร” นายราเมศกล่าว

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เปิดตัวนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เป็นผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตสวนหลวง-ประเวศ โดยนายพงศ์พลเป็นสตาร์ทอัปสาย personal care จากการตั้งบริษัทเล็กๆ ที่นิวยอร์ก จนนำเข้ามาตั้งฐานผลิตในไทย เปิดตลาดสินค้าสู่กว่า 60 ประเทศทั่วโลก เป็นตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่ที่ทะเยอทะยานอยากประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจ ด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองในเวทีสากล ใช้เวลาว่างสั่งสมประสบการณ์ขณะทำงานประจำที่อเมริกา กับองค์กรชั้นนำอย่าง Viacom (เครือ MTV) และ McKinsey and Company บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก

นายกรณ์กล่าวอีกว่า พลังขับเคลื่อนที่เห็นจากนายพงศ์พลคือ พลังความสร้างสรรค์ และความนอกคอกบางอย่างที่นักการเมืองไทยไม่ค่อยจะมี ขณะที่องค์ความรู้ความเข้าใจด้านธุรกิจ-การจัดการ และการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาสังคม โดยใช้ดีไซน์-เทคโนโลยี จากที่ร่ำเรียน Design Management จาก Pratt Institute นิวยอร์ก, ปริญญาตรี สถาปัตย์ จุฬาฯ ถือว่าอาวุธมีอยู่ครบมือ

สำหรับเหตุผลที่อยากมาทำการเมือง นายพงศ์พลกล่าวว่า อยากมาทำการเมืองเพราะอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ทั้งเชิงเศรษฐกิจและระบบการเมือง คนรวยสุดในประเทศกับคนที่จนที่สุดในประเทศ ต่างกันจนแทบเหมือนมาจากคนละดาวกัน ความเป็นธรรมการค้าในเมืองไทย เป็นสิ่งที่ควรต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน รัฐต้องให้โอกาส ธุรกิจหน้าใหม่, สตาร์ทอัป, SMEs ตัวเล็กๆ ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงประเทศ มากกว่าที่เป็นอยู่

ขณะที่ด้านการเมือง นายพงศ์พลเดินหน้าขับเคลื่อนให้เกิดความเป็นธรรมทางการเมืองต่อเนื่อง อย่างการยื่นเสนอบทลงโทษ ส.ส.ที่ไม่ทำหน้าที่จนสภาล่ม หรือการช่วยทีมรณรงค์แก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว.โหวตนายกฯ

"ผมว่าเราได้คนรุ่นใหม่ ที่เป็นตัวจริง ที่เข้ามาเสนอตัวเพื่อดูแลที่น้องประชาชน ทั้งงานอาสา ลอรี่ พงศ์พล ช่วยเหลือพี่น้องในชุมชนหลายเขตในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องในช่วงวิกฤตโควิด, งานเชิงนโยบาย ที่ส่งเสียงแทนประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วม และงานทางเศรษฐกิจ ที่เพียบพร้อมเอามากๆ ขอฝากพี่น้อง สวนหลวง-ประเวศ ไว้ด้วยครับ" นายกรณ์กล่าวทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง