เปิดปีใหม่มาได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์ คิม จองอึน ก็สั่งยิงขีปนาวุธไปแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง เหมือนกำลังจะ “ลองของ” อะไรบางอย่างเพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ของตนเองในปีที่ขึ้นครองอำนาจเบ็ดเสร็จครบ 10 พอดี
ล่าสุดเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 2 ลูกลงไปในทะเลญี่ปุ่น
ข่าวกรองของเกาหลีใต้ประเมินว่าการยิงขีปนาวุธถี่ๆ ของเกาหลีเหนือตั้งแต่วันปีใหม่ 2022 เป็นต้นมาน่าจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกองทัพโสมแดง
ในภาวะที่สหรัฐฯ ยังเดินหน้ากดดันคิมด้วยการเพิ่มมาตราคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการปิดพรมแดนเพื่อสกัดโรคระบาดโควิด
เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือน่าจะยิงขีปนาวุธนำวิถี 2 ลูกจากพื้นที่ในซูนัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติเปียงยาง แต่ไม่ได้บอกในทันทีว่ามีรัศมีทำการไกลแค่ไหน
ญี่ปุ่นก็เดือดร้อนไม่น้อย ทั้งๆ ที่เพิ่งตื่นเต้นกับคำเตือนสึนามิอันเกิดจากการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟใต้ทะเลในบริเวณแปฟิกใต้
โดยนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ สั่งให้รัฐบาลรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธเพื่อวางมาตรการตั้งรับและต่อต้านต่อไป
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โนบุโอะ คิชิ บอกว่าขีปนาวุธชุดล่าสุดมาร่วงอยู่นอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
ร้อนถึงหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นต้องออกคำเตือนต่อเรือที่วิ่งอยู่รอบน่านน้ำญี่ปุ่นระวังวัตถุที่ตกลงมาจากท้องฟ้า แม้จะไม่มีรายงานความเสียหายต่อเรือหรือเครื่องบินในทันที
“เราขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธหลายครั้ง ที่คุกคามสันติภาพและความมั่นคงของญี่ปุ่น ภูมิภาค และประชาคมระหว่างประเทศ” ฮิโรคาสุ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของโตเกียวประกาศ
แวดวงทางทหารตั้งข้อสังเกตว่า การยิงครั้งล่าสุดนั้นมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือทำการทดสอบการบินของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “ไฮเปอร์โซนิก” ชนิดใหม่ เป็นการทดลองยิงเมื่อวันที่ 5 และ 11 ม.ค.และต่อมาวันที่ 14 ม.ค. เปียงยางยังได้ทดสอบขีปนาวุธนำวิถีจากรถไฟอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญที่เกาะติดพฤติกรรมทางการเมืองของเกาหลีเหนือให้ความเห็นว่า คิม จองอึน กำลังกลับไปใช้เทคนิคเดิม
นั่นคือการใช้ขีปนาวุธเพื่อกดดันสหรัฐฯ และเพื่อนบ้านในภูมิภาค
โดยหวังว่าจะนำไปสู่การต่อรองด้วยเงื่อนไขที่จะทำให้เขาสามารถหลุดรอดจากการถูกคว่ำบาตร
ตั้งแต่ โจ ไบเดน ขึ้นมาแทนโดนัลด์ ทรัมป์ วอชิงตันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนปรนเงื่อนไขเหล่านั้น ตรงกันข้าม หลังจากที่คิมยิงขีปนาวุธรอบล่าสุด อเมริกาก็ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นอีก พร้อมกับบอกว่าพร้อมจะเจรจากับเกาหลีเหนือหากยอมต่อรองกันเรื่องเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
คิมยังเชื่อว่าเขาต้องเดินหน้าพร้อมนโยบาย “นิวเคลียร์ขนานกับปากท้อง”
นั่นคือพัฒนาอาวุธร้ายแรงต่อเนื่องพร้อมๆ กับการสร้างเศรษฐกิจ
เพราะคิมเห็นว่าถ้าเกาหลีเหนือไม่มีนิวเคลียร์ อเมริกาและชาติอื่นๆ จะไม่เกรงขาม และอาจจะใช้วิธีการเดียวกับที่อเมริกาใช้กับผู้นำของอิรักและลิเบียมาแล้ว
นั่นคือส่งกองกำลังเข้ายึด และเก็บผู้นำที่อเมริกาไม่ยอมรับเสีย ลีลาและภาษาทางการเมืองของเกาหลีเหนือถึงวันนี้ก็ยังแข็งกร้าว ด้วยการประกาศว่าจะไม่ยอมเจรจากับวอชิงตันหากสหรัฐฯ ยังไม่ละทิ้ง “นโยบายที่เป็นปรปักษ์”
นั่นหมายถึงอเมริกาและพันธมิตร เช่น เกาหลีใต้และญี่ปุ่น
เมื่อสัปดาห์ก่อนกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อชาวเกาหลีเหนือ 5 คน โดยกล่าวหาว่ามีบทบาทโยงกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีสำหรับโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ หรือมีส่วนเกื้อกูลการทดลองอาวุธร้ายแรงของเกาหลีเหนือ
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็มีคำสั่งคว่ำบาตรชาวเกาหลีเหนืออีก 1 ราย พร้อมกับชายชาวรัสเซีย และบริษัทรัสเซีย ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมอาวุธทำลายล้างสูงของเกาหลีเหนือในวงกว้าง
รัฐบาลของไบเดนยังขู่ด้วยว่าจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรหากเปียงยางยังทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นถ้าถามว่าปีนี้เราจะต้องจับตาจุดไหนที่เปราะบางที่อาจจะยกระดับความตึงเครียดระดับโลกได้
นอกจากยูเครน, อิหร่าน, ทะเลจีนใต้แล้ว คิม จองอึน ยังไม่ยอมให้ใครลืมเกาหลีเหนือของเขาเป็นแน่แท้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไบเดนกับทรัมป์: ใคร ฟาดฟันจีนหนักกว่ากัน?
มีคนถามผมว่า ระหว่างโจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์ ใครจะปะทะกับจีนแรงกว่ากัน?
ใครคุม ครม.เศรษฐกิจ?
นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน บอกว่าจะเรียกประชุม “คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ” วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้
ความสูญเสียผู้นำฉับพลัน เป็นช็อกครั้งใหญ่ของอิหร่าน
เป็นข่าวที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับกลุ่มผู้มีอำนาจไม่น้อยทีเดียวเมื่อประธานาธิบดีอิหร่าน เอบราฮิม ไรซี เสียชีวิตในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะสำหรับผู้นำสูงสุด อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี
สถานการณ์สู้รบพม่าเปลี่ยน ดันให้หลายชาติปรับท่าที
สถานการณ์ในเมียนมามีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา จึงน่าสนใจว่า นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะทำอย่างไรกับคณะกรรมการพิเศษที่ตั้งขึ้นเพื่อติดตามและกำกับทิศทางของเรื่องร้อนนี้
สี จิ้นผิงกอดปูติน: ส่งสัญญาณ ‘นี่คือระเบียบโลกใหม่ที่มี 2 ขั้ว’
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียเยือนจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า “สองสหาย” แห่ง “ระเบียบโลกใหม่” ต้องการจะบอกชาวโลกว่ายุคสมัยแห่งการมีโลกที่สหรัฐฯและตะวันตกเป็นผู้กำหนด ทิศทางการเมืองระหว่างประเทศนั้นกำลังสิ้นสุดลง
ไบเดนขึ้นภาษีรถ EV จีน 4 เท่า เปิดสงครามการค้ากับจีนรอบใหม่
สหรัฐฯ เปิดศึกการค้ารอบใหม่กับจีน...เน้นสนามรบทางด้านเทคโนโลยีโดยตรง