'ออมสิน' ผนึกหอการค้าฯเตรียมเงินหมื่นล้านปล่อยกู้ช่วยเอสเอ็มอี

“ออมสิน” งัด 1 หมื่นล้านาท ลุยโครงการเอสเอ็มอีมีที่มีเงิน เฟส 3 สำหรับธุรกิจ Small SMEs เคาะปล่อยกู้ 3 แสนบาท – 50 ล้านบาท เติมทุนหมุนเวียนอุ้มผู้ประกอบการรายเล็กเดินหน้าธุรกิจรับเปิดประเทศ

9 พ.ย. 2564 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวภายหลังลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนเงินทุนสำหรับเอสเอ็มอีภายใต้ “โครงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน” ระหว่างธนาคารออมสิน หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการสมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ประกอบด้วย สินเชื่อ GSB Smooth BIZ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือลงทุนในสินทรัพย์ถาวร อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ที่ 2.99% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท และสินเชื่อเอสเอ็มอี มีที่มีเงิน สำหรับธุรกิจ Small SMEs เฟส 3วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ หรือนำไปไถ่ถอนสัญญาขายฝาก ให้กู้โดยพิจารณาจากที่ดินซึ่งเป็นหลักประกัน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 70% ของราคาประเมินราชการ ไม่ตรวจเครดิตบูโร อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% ตลอดสัญญา ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 2 ปี

นอกจากนี้ สมาชิกหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังสามารถเลือกใช้บริการสินเชื่ออื่นตามมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ได้ตามความประสงค์ อาทิ สินเชื่อซอฟท์โลน สำหรับเอสเอ็มอีท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง หรือสินเชื่อซอฟท์โลน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อฟื้นฟูกิจการ เป็นต้น

“โครงการสินเชื่อเอสเอ็มอีมีที่มีเงิน ในระยะที่ 1 และ 2 มีผู้ประกอบการมายื่นของสินเชื่อหมดอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยรายละ 4-5 ล้านบาท ส่วนโครงการ สำหรับธุรกิจ Small SMEs ซึ่งเป็นเฟส 3 มีการตั้งวงเงินไว้ 1 หมื่นล้านบาท หากเต็มวงเงินก็สามารถขยายวงเงินเพิ่มได้อีก เรื่องนี้ ธปท. ได้ขอให้ออมสินดำเนินการ เพราะว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงระหว่างเปิดประเทศ อีกทั้งได้มีการปรับเกณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการมากขึ้น อาทิ วงเงินปล่อยกู้สำหรับบุคคลธรรมดา เริ่มตั้งแต่ 3 แสนบาท – 10 ล้านบาท ส่วนนิติบุคคล เริ่มตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึง 50 ล้านบาท รวมทั้งมีการผ่อนปรนเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อภายในให้มีความคล่องตัวมากขึ้นด้วย เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแหล่เงินทุนในการต่อยอดธุรกิจภายหลังการเปิดประเทศ ซึ่งหลักเกณฑ์ผ่อนปรนเหล่านี้ในภาวะปกติธนาคารไม่สามารถดำเนินการได้” นายวิทัย กล่าว

นายวิทัย กล่าวว่า คาดว่าสิ้นปี 2564 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล อยู่ในระดับ 2% ต้น ๆ เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่กระทบกับฐานะของธนาคาร เนื่องจากมีการตั้งสำรองส่วนเกินในสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านบาท จากที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7 เท่า ขณะที่อัตรากำไรในปีนี้คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน มาจากการลดต้นทุนค่าบริการจัดการต่าง ๆ ซึ่งทำให้ธนาคารมีรายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีกว่า 1 หมื่นล้านบาท

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความต้องการสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนในการต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะภายหลังรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศอย่างชัดเจน ซึ่งโครงการสินเชื่อของธนาคารออมสินตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย อยู่ระหว่างการเสนอรัฐบาลพิจารณาผ่อนปรนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่เอาเกณฑ์การตรวจเครดิตบูโรเข้ามาประกอบในการพิจารณาให้สินเชื่อ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทันเวลา

“โครงการสินเชื่อหลายโครงการก่อนหน้านี้ของรัฐบาลยังไม่ตรงประเด็น ไม่ตรงเป้าหมายและไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ เช่น โครงการีพักทรัพย์พักหนี้ โครงการสินเชื่อฟื้นฟู วงเงิน 2.5 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังและ ธปท. รวมถึงสถาบันการเงินขนาดใหญ่เพื่อหาทางแก้ไขเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยจะมีการเสนอให้รัฐบาลผ่อนปรนเกณฑ์ปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น” นายสนั่น กล่าว

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าภายหลังการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลจะไม่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกอย่างแน่นอน เนื่องจากการเร่งกระจายวัคซีนที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปัจจุบันมีประชาชนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 1 แล้วน่าจะเกิน 100% ขณะที่เข็ม 2 คาดว่าจะทยอยฉีดและภายในปลายปี 2564 จะมียอดฉีดเกิน 70% ของประชากรทั้งหมด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สสว. จับมือ เทลสกอร์ ผลักดัน “อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง” หนุนยอดขายเอสเอ็มอี

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. มีพันธกิจในการบูรณาการ และผลักดันการส่งเสริม MSME

'นฤมล'ขอบคุณออมสิน มอบ10ล้านช่วย'เนตบอล' ส่งลุยซาอุฯ-ศึกอินดอร์

การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของสมาคมกีฬาเนตบอลแห่งประเทศไทย​ ณ หมู่บ้านวร​บูลย์ อ่อนนุช 44 โดยมีดาติน ซรีนฤมล​ ศิริวัฒน์​ นายกสมาคมฯ​ เป็นประธานการประชุมพร้อมกับคณะกรรมการบริหาร​ สโมสรสมาชิก​ และผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน​

รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

"สสว." จับมือ "โอเพนเอเชีย " จัดเต็มสิทธิประโยชน์เอสเอ็มอี ลุยส่งออกตลาดจีน

สสว. ร่วมกับ โอเพนเอเชีย สร้างโอกาสเอสเอ็มอีไทย ผลักดันสิทธิประโยชน์เสริมศักยภาพมุ่งเน้นส่งออกสินค้าจำหน่ายยังสาธารณรัฐประชาชนจีน

ห้ามพลาด ออมสิน จัดเต็มแจกรางวัลที่ 1 สลากออมสิน 111 ล้านบาท

ออมสิน จัดเต็มแจกรางวัลที่ 1 สลากออมสิน 111 ล้านบาท ฉลองครบรอบ 111 ปี เปิดรับฝาก 1 เม.ย. – 15 พ.ค. 67 จับรางวัลผู้โชคดี 16 พ.ค. 67 พร้อมโปรโมชันเฉลิมฉลองอีกมากมาย