รีวิวยาสีฟัน Be You มีรสชาติให้เลือกเยอะ กลิ่นผลไม้ หอมมากกกกกกก


ถ้าหลายคนเบื่อยาสีฟันรสชาติเดิมๆ เราจะเปลี่ยนใหม่
เป็นรสอื่นที่เป็นกลิ่นผลไม้ได้นะ วันนี้เลยมาป้ายยายาสีฟันที่ใช้อยู่
 ยาสีฟัน Be You เป็นแบรนด์จาก CURAPROX นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์
รับรองว่าไม่เบื่อแน่นอนเพราะมีให้เลือกถึง 6 รสชาติเลยค่า
ซึ่งแบ่งบรรจุมาในหลอดเล็กๆ ขนาด 60 ml.
หยิบจับ พกง่ายมาก ควรค่าแก่การมีสุดๆ แล้วจ้า

ให้ข้อมูลยาสีฟันแบรนด์นี้ซักนิดนึง เผื่อบางคนยังไม่รู้จักแล้วสนใจน้องเข้า
ขอดักไว้เลยว่าไม่มีสารอันตรายให้เกิดอาหารแพ้แน่นอน เช่น SLS สารที่ทำให้เกิดฟอง
Triclosan , Paraban สารกันบูด , กลูเต็น ที่พบได้ในยาสีฟันทั่วไปซึ่งถ้ามีสะสมในช่องปากก็ส่งผลเสียได้น้า

นอกจากนี้ยังมีฟลูออไรท์ 950 ppm ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมและปลอดภัย รวมถึงมีเอนไซม์ช่วยลดการสะสมและยับยั้งการเจริญเติมโตของแบคทีเรีย มี Provitamin B5 เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเนื้อเยื่อในช่องปาก

และอีกคุณสมบัติที่เด่นของยาสีฟันตัวนี้คือมี Power Peals ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น
มี Prestige Sparking Blue ช่วยสะท้อนแสงสีฟ้า ทำให้ฟันดูขาวขึ้นด้วยค่ะ
ส่วนใครที่วีแกนก็ใช้ได้สบายค่ะ เพราะใช้เอนไซม์จากพืช

ส่วนทั้ง 6 กลิ่นที่ภูมิใจนำเสนอนั้นคือดีมากกกกกกก กลิ่นหอม น่าใช้สุดๆ
Grapefruit+Bergamot กลิ่นเกรปฟรุตและมะกรูด
Peach+apricot กลิ่นพีชและแอปริคอต
Watermelon กลิ่นแตงโม
Gin Tonic+Persimmon กลิ่นจูนิเปอร์เบอร์รี่และลูกพลับ
Blackberry+Licorice กลิ่นแบล็กเบอร์รี่และชะเอมเทศ
Apple+Aloe กลิ่นแอปเปิ้ลและว่านหางจระเข้

ส่วนเนื้อยาสีฟันอันนี้ออยชอบมากนะ คือจะคล้ายๆ เจลนุ่มนิ่ม
มาพร้อมกับเม็ดบีสต์สีตามรสชาติที่เราชอบเลย แต่ยิ่งกว่านั้นคือ
เนื้อยาสีฟันจะไม่เหมือนที่ขายทั่วๆ ไปเลยนะแอบมีประกายเหมือนสีของไข่มุกเลย
บีบออกมาคือเนื้อสวยมาก เรื่องกลิ่นนี่ที่สุดละ ใช้ทีไรทำให้นึกถึงตอนเด็ก
ที่เราใช้ยาสีฟันกลิ่นขนม ผลไม้หรือลูกอมงี้ หอมมากเลย ฟีลดีอ่ะ
ฟองไม่เยอะด้วยนะคะ

แต่รสที่ออยเลือกมาและชอบสุดออยขอเป็น Apple+Aloe ละกัน
เป็นคนชอบกลิ่นแอปเปิ้ลอยู่แล้วด้วย รสชาตินี้เลยตอบโจทย์สุด
กลิ่นหอม น่ากินมาก

ใครที่กำลังเบื่อยาสีฟันรสชาติเดิมๆ เราขอแนะนำของแบรนด์นี้เลย
ถ้าใช้แปรงสีฟันของ Dragcura อยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดยาสีฟัน ออยใช้ของแบรนด์นี้มาได้สักพักละ
ซื้อตามรีวิวมาเหมือนกัน ให้แฟนใช้ด้วย แฟนยังบอกว่าดีเลย เดี๋ยวจะไปซื้อหลอดใหญ่แล้วเพราะ
แบบหลอดเล็กมันไม่สะใจ สำหรับคนที่ใช้ทุกวันแบบเรา 5555
อยากให้ได้ลองดูค่ะ ถึงราคาจะสูงกว่าแบรนด์ตามท้องตลาดแต่คุณภาพเค้าแน่นทีเดียวนะ
อันนี้ไม่อวยทิพท์จ๊ะ เพราะใช้เองมาตลอดเลย สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน DragCura ทุกสาขา ราคา 695 บาท

พิกัดออนไลน์ : https://www.dragcura.com/product/detail/17/%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99-BE-YOU.-Travel-Set.html

รีเซ็ตผิวเหนื่อยล้าแบบเร่งด่วนด้วยแอมพลู innisfree Black Tea Youth Enhancing Ampoule


สวัสดีทุกคนอีกครั้งนะคะ
รู้รึยังว่าอินนิสฟรีตอนนี้เค้าออกสกินแคร์มาใหม่อีกแล้วค่า
เป็นแอมพล สูตรชะลอวัยและต้านอนุมูลอิสระ
น้องมีชื่อว่า “innisfree Black Tea Youth Enhancing Ampoule
ตัวนี้น่าสนใจมาก เหมาะกับสาวๆ ที่พักผ่อนน้อย เหนื่อยล้าจนทำให้ผิวหน้าอ่อนแอลงไปด้วย
บอกเลยว่าน้องตอบโจทย์มากๆ ค่ะ เพราะจะช่วยปรับสภาพผิวหน้าของเราให้ดีขึ้น


“innisfree Black Tea Youth Enhancing Ampoule
น้องคือแอมพลู สูตร Night Defense Formula ที่จะช่วยชะลอวัยและต้านอนุมูลด้วยเทคโนโลยี Reset Concentrate คือกรรมวิธีการสกัดชาดำโดยการนำใบชาไปผสมกับน้ำแร่ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียสและสกัดอย่างช้าๆ ด้วย วิธีธรรมชาตินานถึง 12 ชั่วโมงเลย น้องก็จะเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาจาก 5 สัญญาณของผิวที่เหนื่อยล้า อิดโรยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอทั้งผิวแห้งกร้าน, หมองคล้ำ, สภาพผิวโดยรวม, ความเรียบเนียน ผิวแพ้ง่ายหรือระคายเคืองง่าย ให้กลับมาแข็งแรงขึ้น

เหตุผลที่แบรนด์เลือกน้องชาเขียวสีดำก็เพราะว่ามีประสิทธิภาพสูงในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและความแตกต่างจากการหมักชาเขียวสายพันธุ์อื่นๆ คือมีคุณสมบัติในเรื่องของการชะลอวัยด้วยนั้นเองด้วยค่า

ซึ่งชาดำก่อนกรรมวิธีการหมักมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่ค่อนข้างสูง และยังเต็มไปด้วยโมเลกุลของคาเทชินในระหว่างการหมักด้วย เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ หลังผ่านการหมักซ้ำๆ

ส่วนแพ็คเกจก็มาในรูปแบบขวดแก้วเช่นเดิม ฝาจะเป็นตัวดูดดรอปเปอร์
สะดวกมากๆ แต่อาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ เวลาพกน้องไปเที่ยวด้วย

เนื้อเซรั่มคล้ายๆ กับน้อง Green Tea Seed Serum เลยค่ะ
เกลี่ยง่าย ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย
พอทาแล้วผิวดูฉ่ำขึ้นทันทีแต่เป็นความฉ่ำที่ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม
สามารถลงสกินแคร์ตัวต่อไปได้ ผิวมันแบบออยใช้ได้สบายเลยค่า


ตัวนี้ใช้ทาเฉพาะก่อนเข้านอนนะคะ ทางแบรนด์แนะนำมาว่าใช้เพียงแค่ 1 ครั้งก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างทันทีเลย แต่จากที่ออยใช้มาอย่างแรกที่รู้สึกได้คือความฉ่ำและชุ่มชื้น ปริ่มมากกก น้องตอบโจทย์ผิวแห้งได้ดีเลยนะคะ เหมือนเคลือบผิวเราให้คงความชุ่มชื้นตลอดทั้งคืน ใช้แล้วไม่แสบคันเลย อ่อนโยนต่อผิวอยู่นะคะ เพราะปกติผิวออยค่อนข้างแพ้และแดงง่ายมากๆ อ่ะ น้องยังช่วยปลอบประโลมผิวให้แข็งแรงขึ้นเยอะ ไม่ค่อยแดงง่ายหรือแสบกว่าเดิมแล้ว ชอบมากกกกให้ลิสต์ไว้ในกรุสกินแคร์อีกหนึ่งแน่นอน ขาดไม่ได้ 555

อยากให้ได้ลองกันมากๆ เลยค่ะ เชื่อว่าน้องตัวนี้ตอบโจทย์สาวๆ หลายคนที่ต้องทำงานหนัก
พักผ่อนน้อยจนไม่ได้ดูแลผิวตัวเองเท่าที่ควร ไม่งั้นผิวจะเสื่อมสภาพลงทำให้เกิดริ้วรอยและผิวแย่ลงนะคะ

ค่าตัวน้องขวดละ 1,350 บาท
ขนาด 30 ml. จัดเลยค่า

รีเซ็ตผิวเหนื่อยล้าแบบเร่งด่วนด้วยแอมพลู innisfree Black Tea Youth Enhancing Ampoule


สวัสดีทุกคนอีกครั้งนะคะ
รู้รึยังว่าอินนิสฟรีตอนนี้เค้าออกสกินแคร์มาใหม่อีกแล้วค่า
เป็นแอมพล สูตรชะลอวัยและต้านอนุมูลอิสระ
น้องมีชื่อว่า “innisfree Black Tea Youth Enhancing Ampoule
ตัวนี้น่าสนใจมาก เหมาะกับสาวๆ ที่พักผ่อนน้อย เหนื่อยล้าจนทำให้ผิวหน้าอ่อนแอลงไปด้วย
บอกเลยว่าน้องตอบโจทย์มากๆ ค่ะ เพราะจะช่วยปรับสภาพผิวหน้าของเราให้ดีขึ้น


“innisfree Black Tea Youth Enhancing Ampoule
น้องคือแอมพลู สูตร Night Defense Formula ที่จะช่วยชะลอวัยและต้านอนุมูลด้วยเทคโนโลยี Reset Concentrate คือกรรมวิธีการสกัดชาดำโดยการนำใบชาไปผสมกับน้ำแร่ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียสและสกัดอย่างช้าๆ ด้วย วิธีธรรมชาตินานถึง 12 ชั่วโมงเลย น้องก็จะเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาจาก 5 สัญญาณของผิวที่เหนื่อยล้า อิดโรยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอทั้งผิวแห้งกร้าน, หมองคล้ำ, สภาพผิวโดยรวม, ความเรียบเนียน ผิวแพ้ง่ายหรือระคายเคืองง่าย ให้กลับมาแข็งแรงขึ้น

เหตุผลที่แบรนด์เลือกน้องชาเขียวสีดำก็เพราะว่ามีประสิทธิภาพสูงในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและความแตกต่างจากการหมักชาเขียวสายพันธุ์อื่นๆ คือมีคุณสมบัติในเรื่องของการชะลอวัยด้วยนั้นเองด้วยค่า

ซึ่งชาดำก่อนกรรมวิธีการหมักมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่ค่อนข้างสูง และยังเต็มไปด้วยโมเลกุลของคาเทชินในระหว่างการหมักด้วย เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ หลังผ่านการหมักซ้ำๆ

ส่วนแพ็คเกจก็มาในรูปแบบขวดแก้วเช่นเดิม ฝาจะเป็นตัวดูดดรอปเปอร์
สะดวกมากๆ แต่อาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ เวลาพกน้องไปเที่ยวด้วย

เนื้อเซรั่มคล้ายๆ กับน้อง Green Tea Seed Serum เลยค่ะ
เกลี่ยง่าย ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย
พอทาแล้วผิวดูฉ่ำขึ้นทันทีแต่เป็นความฉ่ำที่ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม
สามารถลงสกินแคร์ตัวต่อไปได้ ผิวมันแบบออยใช้ได้สบายเลยค่า


ตัวนี้ใช้ทาเฉพาะก่อนเข้านอนนะคะ ทางแบรนด์แนะนำมาว่าใช้เพียงแค่ 1 ครั้งก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างทันทีเลย แต่จากที่ออยใช้มาอย่างแรกที่รู้สึกได้คือความฉ่ำและชุ่มชื้น ปริ่มมากกก น้องตอบโจทย์ผิวแห้งได้ดีเลยนะคะ เหมือนเคลือบผิวเราให้คงความชุ่มชื้นตลอดทั้งคืน ใช้แล้วไม่แสบคันเลย อ่อนโยนต่อผิวอยู่นะคะ เพราะปกติผิวออยค่อนข้างแพ้และแดงง่ายมากๆ อ่ะ น้องยังช่วยปลอบประโลมผิวให้แข็งแรงขึ้นเยอะ ไม่ค่อยแดงง่ายหรือแสบกว่าเดิมแล้ว ชอบมากกกกให้ลิสต์ไว้ในกรุสกินแคร์อีกหนึ่งแน่นอน ขาดไม่ได้ 555

อยากให้ได้ลองกันมากๆ เลยค่ะ เชื่อว่าน้องตัวนี้ตอบโจทย์สาวๆ หลายคนที่ต้องทำงานหนัก
พักผ่อนน้อยจนไม่ได้ดูแลผิวตัวเองเท่าที่ควร ไม่งั้นผิวจะเสื่อมสภาพลงทำให้เกิดริ้วรอยและผิวแย่ลงนะคะ

ค่าตัวน้องขวดละ 1,350 บาท
ขนาด 30 ml. จัดเลยค่า

Bloss Jeli Moist Booster คอลลาเจนเจลลี่ กินง่ายได้ผิวสวย

สวัสดีค่า วันนี้ขอหยิบคอลลาเจนที่ลองกินแล้วชอบมารีวิวหน่อยหลังจากที่ลองกินมาแล้วชอบมากๆ เพราะน้องตัวนี้อยากบอกว่าตอบโจทย์คนที่มีทั้งแห้งและผิวมันทีโซน มีสิวเยอะเช่นพวกสิวผด อุดตันหรือช่วยผิวแข็งเแรงขึ้น ไม่แพ้ง่าย แต่งหน้าติดทนขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือกินง่ายไม่ต้องชงให้วุ่นวายแล้วฉีกซองแล้วกินได้เลย อร่อยมากๆ
1
4
Bloss Jeli Moist Booster เป็นคอลลาเจนสูตรใหม่คือจะเน้นช่วยเรื่องผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื่นโดยตรงและปรับสมดุลผิวให้ผิวที่มันช่วงทีโซนให้หายไปด้วย ช่วยลดการเกิดสิวผด สิวอุดตัวได้ด้วย

คอลลาเจนสูตรนี้จะผสาน 4 คุณค่าจาก
เซราไมด์ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวและรักษาสมดุลน้ำใต้ชั้นผิว
คอลลาเจน ไตรเปบไทด์ ช่วยให้ผิวตึง นุ่มเด้ง ไร้ริ้วรอย
อ่อนกว่าวัย
SOD จากเมล่อนที่ได้รางวัลจาก “EUROPEAN Anti-stress award” ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
Natural Vitamin C จากบลูเบอร์รีและราสป์เบอร์รีเข้มข้น
3
ส่วนตัวแพคเกจคือเค้าจะมาเป็นกล่องใหญ่ๆ แบบในรูปเลยแล้วก็จะมีซองคอลลาเจนด้านใน บรรจุไว้ด้วยกัน 14 ซองค่ะ สีม่วงอมชมพูน่ารักมากๆ
2
ตัวคอลลาเจนก็ไม่ได้เป็นแบบผงให้เราชงดื่มนะคะ แต่จะเป็นในรูปแบบของเจลลี่ ซึ่งรูปแบบเจลลี่ดูดซึมดีกว่าแบบเม็ดหรือแบบผงถึง 5 เท่าเลยนะ!! กินง่ายกว่าเดิมด้วย
ตอบโจทย์สายขี้เกียจแบบออยสุดๆ ล่ะ 555 อันนี้แค่ฉีกซองแล้วกินได้เลย พกใส่กระเป๋ากินเล่นเหมือนขนมว่างๆ เพลินๆ ตอนทำงานก็ได้เหมือนกัน ดีอ่ะ สะดวกมาก
5
6
หลังจากที่ได้ลองกินมารู้สึกว่าผิวใสขึ้นนะคะ พวกรอยจากการกดสิวของออยดูจางลงเร็วกว่าเดิมอีกแล้วผิวก็ดูฉ่ำน้ำ เวลาแต่งหน้ามันช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้นด้วยเพราะก่อนหน้านี้เลเซอร์หน้ามาเหมือนกันทำให้หน้าแห้ง บำรุงด้วยครีมมันก็ยังไม่พอไง ก็ต้องเสริมคอลลาเจนบำรุงจากข้างในด้วย
7

จะบอกว่าตัวนี้ตอบโจทย์เรื่องปัญหาผิวได้ดีจริงๆ
บำรุงจากภายในสู่ภายนอกเลย ยิ่งใครเป็นสิวเยอะๆ แนะนำให้ลองกินดูนะคะ ไอเลิฟมากกกกก

เลขอย. 13-4-01862-5-0001
107593

 

มันดีกว่าที่คิด!! ยาสีฟันสมุนไพรสกัดมิสทิน

ปก-2
สวัสดีค่า มาครั้งนี้ขอหยิบยาสีฟันมารีวิวกันบ้าง
กับ “ยาสีฟันสมุนไพรสกัดมิสทิน” หรือสั้นๆคือ “ยาสีฟันเดนทิส” นั่นเอง
ปกติถ้าพูดถึงมิสทินจะนึกถึงแต่เครื่องสำอาง แต่พอรู้ว่ามียาสีฟัน ก็อยากลองเลยค่า

1

ยาสีฟันสมุนไพรสกัดมิสทิน มีส่วนผสมของสารสกัดเข้มข้นจากสมุนไพรธรรมชาติ
และด้วยความที่เข้มข้นมากนี่แหละ แบรนด์ถึงบอกว่า ใช้ครั้งละแค่นิ๊ดเดียวก็พอแล้ว

2

มีด้วยกัน 3 สูตร 3 สี ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามสภาพช่องปากของแต่ละคนค่า
แอบกระซิบนิดนึงว่า หลอดสีเขียวเป็นสูตรที่ขายดีมายาวนานมากแล้ว
ฉะนั้นหลอดนี้ต้องไม่พลาดค่ะ

3

เรามาเริ่มกันที่ ยาสีฟันสมุนไพรสกัดมิสทิน หลอดสีเขียว ที่เป็นสูตรขายดีกันก่อนเลย
ตัวนี้เป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารสกัดเข้มข้นจากสมุนไพรธรรมชาติ
ช่วยดูแลสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
และทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นตลอดทั้งวัน
เป็นน้องเล็กสุด ขนาด 40 กรัมค่า

9
สีของเนื้อยาสีฟันคือเป็นสีของสมุนไพรเลย คือจะมีสีน้ำตาลอ่อน เนียนละเอียด กลิ่นหอมๆ เย็นสดชื่นมาก
รสชาติก็อ่อนดี ไม่จัด ไม่เผ็ดอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ เวลาใช้อย่าลืมหมุนฝาแล้วแกะฟรอยด์ออกก่อนด้วยนะคะ

10
มาต่อกันที่ ยาสีฟันสมุนไพรสกัดมิสทิน หลอดสีฟ้า
ตัวนี้มีสารสกัดจากรากชะเอมเทศ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก
มีส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติเช่นกัน ช่วยดูแลปัญหาสุขภาพเหงือก
ป้องกันฟันผุ ลดการเกิดคราบพลัค ทำให้ลมหายใจสดชื่น ฟันแลดูขาวสะอาดสดใส

5
สีของเนื้อยาสีฟันคือเป็นสีของสมุนไพรเหมือนกับหลอดสีเขียวเลยค่ะ
มีสีน้ำตาลอ่อน เย็นๆ แต่ไม่แสบปาก กลิ่นหอมแต่ไม่ชัดเท่า รสชาติจะไม่ได้เผ็ดมากด้วยนะคะ

6
ตัวสุดท้าย ยาสีฟันสมุนไพรสกัดมิสทิน หลอดสีชมพู
ตัวนี้จะมีส่วนผสมของเกลือชมพู และมี CO-ENZYME Q10 ช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง
ออยชอบสูตรนี้ที่สุดเลยนะ เพราะตอบโจทย์ปัญหาช่องปากของออย
คืออยากให้เหงือกแข็งแรงขึ้น ก็เลยจะใช้สูตรนี้บ่อยหน่อย

7
สีของเนื้อยาสีฟันดูจะอ่อนที่สุดในบรรดาทั้ง 3 สูตรค่ะ
แต่รสชาติจะออกไปทางเค็มนิดๆ กำลังดี ไม่เฝื่อน กลิ่นก็ใช้ได้เลย

8

อย่างที่บอกว่า ใช้แค่ครั้งละเท่าเม็ดถั่วเขียว ก็พอแล้ว
แต่สำหรับออยเพื่อความสะใจ ก็จะบีบให้เม็ดใหญ่ขึ้นมาหน่อยเพราะชอบใช้เยอะ 555
แต่จริงๆ คือบีบแค่ปริมาณที่บอกข้างต้นก็ถือว่าเพียงพอในการทำความสะอาดได้ทั่วช่องปากแล้วนะคะ
ส่วนตัวจากที่ลองใช้มา เนื้อยาสีฟันค่อนข้างละเอียด หอมสมุนไพรมาก
ตอนแรกคิดว่าต้องเผ็ดแน่ๆ แต่เอาจริง ไม่เผ็ด ไม่เฝื่อนและไม่แสบร้อนปากเลย
อ่อนโยนและเป็นมิตรกับช่องปากของเรามากๆ

12
20200704135250_IMG_3172-01

ใครยังไม่เคยลองแนะนำเลยนะคะ ออยอยากบอกว่า มันดีกว่าที่คิด!!
ใช้แล้วสดชื่นมาก ไม่แสบปากแน่นอน รสชาติก็ไม่เผ็ดด้วย
ราคาน่ารักแค่ 69 บาท หาซื้อได้ที่สมาชิกมิสทิน,  ร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป หรือในออนไลน์เลยค่ะ
20200704135825_IMG_3183-01

รีวิวฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้าให้ดูเรียว…ละมุนขึ้นมากกกก! ปลื้มเลย

สวัสดีทุกคนค่าาาาาาาาาาา
เห็นชื่อกระทู้ก็น่าจะทราบกันแล้วเนอะ ว่าวันนี้พามาทำอะไร
มาอัพความสวยเพิ่มกันนิดนึงหลังจากตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คางเพิ่ม
ต้องบอกเลยว่าแอบกลัวการฉีดฟิลเลอร์มาก แต่ด้วยความที่เราก็อยากสวยไง
เลยพยายามศึกษาและหาคลินิกเพิ่มเติม จนมาเจอ Aura Bangkok Clinic ที่นี่ค่า

อันนี้ออยดูรีวิวลูกค้าแต่ละเคสของเค้ามาเยอะเหมือนกันทำออกมาสวยมาก เห็นผลทันที
ทุกเคสจะฉีดกับแพทย์เฉพาะทางและใช้ตัวยาแท้สามารถตรวจาสอบก่อนได้เลยค่ะ ปลอดภัยแน่นอน

2DSC09938

ออยมาทำที่สาขาเดอะมอลล์ บางแคนะคะ นั่ง MRT มายาวๆ เลย
บรรยากาศภายในร้านน่ารักและสะอาดมาก ตกแต่งสวยงาม ใกล้ๆ มีตู้แช่โบท็อกซ์และฟิลเลอร์ให้เห็นเลยส่วนพี่ๆ หน้าเคาร์เตอร์ให้บริการดี เป็นกันเองและให้คำแนะนำละเอียดด้วยค่ะ

DSC00020DSC09978
4

เข้าคลินิกมาปุ๊ปก็กรอกประวัติให้เรียบร้อยรอคิวค่า
ของออยไม่ได้ฉีดแค่ฟิลเลอร์คางอย่างเดียว ระหว่างรอก็เติมวิตามินผิวไปด้วย
พยาบาลเป็นคนฉีดให้นะคะ ซึ่งทางคลินิกเค้าจะมีด้วยกัน 3 สูตรให้เราเลือก
Aura White สีชมพู ช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส มีออร่า เหมาะกับคนที่อยากให้ผิวดูใส
Aura Blink สีเหลือง ช่วยให้ผิวนุ่มลื่นมากขึ้น เหมาะกับคนที่อยากให้ผิวนุ่มน่าสัมผัส
Aura Aging สีส้ม ช่วยเรื่องผิวสุขภาพแข็งแรง เพิ่มภูมิคุ้มกัน เหมาะกับคนพักผ่อนน้อย
ราคากระปุกละ 1,800 บาท แนะนำให้มาเติมอาทิตย์ละ 1 ครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ไวขึ้นค่ะ
ของออยเลือกสีเหลือง อยากให้ผิวนุ่มๆ บ้าง อิอิ

page2

ไม่พอจ้า ออยทำคู่กับโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าด้วยนะ
เพราะออยเคยโบกรามไปแต่อยากให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นเลยทำไปด้วย
บวกกับที่คลินิกเค้ามีโปรโมชั่นคุ้มๆ คือถ้าโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าคู่กับฟิลเลอร์คาง
เค้าจะแถมวิตามินผิว(1,800 บาท) ฟรีด้วย!!!

DSC00016
บรรยากาศห้องด้านในค่ะ

ถามว่าเจ็บมั๊ย? เจ็บค่ะ 555 แต่เจ็บแบบทนได้
หลังฉีดจะเป็นปุ่มๆ แบบในรูปเลยแต่รอประมาณ 5-10 นาทีก็จะเริ่มหายไปค่ะ ไม่มีบวมอะไรเลย
ปริมาณที่ฉีดคือ 80 Unit นะคะ

page3

มาถึงการฉีดฟิลเลอร์คางกัน ตื่นเต้นมาก
คุณหมอก็จะถามถึงความต้องการของเราก่อนซึ่งของออยก็คางนี่แหละค่า รู้สึกว่าสั้นไปนิดนึง อยากให้ดูบาลานซ์มากขึ้น แล้วคุณหมอก็จะประเมินดูว่าลักษณะคางเป็นยังไง สามารถฉีดและใช้ปริมาณได้แค่ไหน
แล้วพบว่าคางออยไม่ค่อยเท่ากันด้วยก็เลยให้คุณหมอแนะนำว่าควรปรับยังไงดีให้เหมาะกับรูปหน้าเราดีเพราะทำทั้งทีก็อยากให้ออกมาดูธรรมชาติที่สุด ไม่ชอบให้คางแหลมเกินไป คุณหมอก็จัดให้เลย 1 CC เคสออยไม่ใช้ยาชาค่ะ เพราะในฟิลเลอร์มียาชาผสมอยู่แล้วและคุณหมอบอกว่าเวลาปั้นจะได้ดูทรงให้เราถูกเพราะถ้าฉีดยาชาจะทำให้บวมง่าย

DSC09993
3

คุณหมอมือเบามากๆ เจ็บน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะค่ะ แถมยังใจเย็นสุดๆ
รวมถึงเราด้วย เกิดอาการตื่นเต้นเบาๆ 555 พอฉีดเสร็จดูกระจกแล้วปริ่มมาก ฮือออ คุณหมอปั้นให้สวยเลย แทบกราบคือหน้าดูเรียวขึ้นเยอะ เห็นผลชัดทันที ไม่บวม ไม่ช้ำแล้วดูรับกับหน้าเราอ่ะ ไม่แหลมหรือยาวไป

ความรู้สึกหลังฉีดจะมีอาการปวดและตึงนิดหน่อยค่ะ แรกๆ จะไม่ค่อยชินเวลาลูบคางจะรู้สึกเป็นก้อนๆ ชัดซึ่งเป็นปกตินะคะ ไม่ต้องตกใจแล้วถ้าเกิดว่ากลับบ้านไปปวดมากขึ้นก็สามารถทานยาแก้ปวดได้ค่ะ

IMG_20200217_211734page4

แปะรูปเพิ่มน๊า หลังฉีดมา 3 วันกับช่วง 1 อาทิตย์คือแต่งหน้าได้ปกติทุกอย่าง
ข้อสำคัญหลังฉีดคือให้ดื่มน้ำเยอะๆ คางจะได้ขึ้นรูปสวยค่ะ
แล้วก็งดเหล้าเบียร์ 4-5 วัน งดนวดจุดที่ฉีดและงดเท้าคาง 2 สัปดาห์
แต่ออยจะมีปวดๆ ใต้ข้างตรงที่คุณหมอลงเข็มอยู่นิดนึงตอนไปโดน 555

Adobe_Post_20200217_2312070.3664827888026716-01

รูปนี้คือปัจจุบัน 1 เดือนพอดี แฮปปี้สุดๆ ลูบแล้วไม่เป็นก้อนเลย
หลังฉีดมาคือรู้สึกมั่นใจกับหน้าตัวเองมากๆ ถ่ายรูปสวยและละมุนขึ้น
และหน้าดูบาลานซ์กันอ่ะ เหมือนมีคางแบบนี้มาตั้งแต่เกิดเลย
เป็นธรรมชาติมาก เพื่อนยังทักว่าคางสวยจัง อยากฉีดบ้าง กราบหมอจริงๆ ค่ะ 555

1

สรุปรายการที่ออยทำทั้งหมดก็มีจะ 3 อย่าง
– Botox ลิฟกรอบหน้า 80 ยูนิต 3,500 บาท
– Filler คาง Neuramis 1 cc 7,500 บาท
– วิตามินผิว 1 กระปุก 1,800 บาท

รวมทั้งสิ้นคือ 12,800 บาท แต่อย่างที่บอกว่าเค้ามีโปรแถมวิตามินผิว 1 กระปุก(สูตรไหนก็ได้)
เหลือแค่ 9,990 บาท โคตรคุ้ม
ทางคลินิกจะมีใบแนะนำข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดพร้อมกับคำแนะนำให้ด้วยนะคะ
เกือบลืมบอกว่าคลินิกนี้เค้าจะเน้นเห็นผลและปลอดภัยเท่ากันทุกสาขานะคะ
จะไม่ได้ระบุชื่อของแพทย์ที่ทำให้เราลงไป เนื่องจากเป็นทีมแพทย์ที่ได้มาตรฐานทุกที่ค่ะ
คอนเฟิร์มว่าปลอดภัยแน่นอนเพราะเพื่อนออยก็มาทำที่นี่เหมือนกัน

DSC00034

 ถ้าใครกำลังตัดสินใจหรือหาคลนิกอยู่
ให้ศึกษาข้อมูลดีๆ นะคะ รวมไปถึงดูรีวิวทั้งของคลินิกและของลูกค้าไปพร้อมกันด้วย
สำคัญที่สุดคือตัวยาทุกตัวต้องสามารถตรวจสอบได้จริงๆ ด้วยนะคะ ของปลอมอันตรายมากๆ
ไม่คุ้มเสี่ยงเลย ดังนั้นเลือกดีๆ ด้วยความเป็นห่วงค่า

 

รีวิวประสบการณ์เติม Filler ใต้ตาครั้งแรก รู้งี้ทำนานแล้ว!!!

ใครมีปัญหาใต้ตาลึกและคล้ำแบบออยบ้างมั๊ย?
บอกเลยว่าสำหรับออยเป็นปัญหาที่แก้ไม่หายมานานมากๆ
เพราะจากที่ตัวเองเป็นคนใต้ตาลึกอยู่แล้วบวกกับเป็นภูมิแพ้พอใต้ตามันคล้ำ
ก็ทำให้หน้าเราดูโทรม ดูเหนื่อยและดูแก่กว่าวัยมากๆ ยิ่งเวลาไม่แต่งหน้านะ เหมือนคนติดยาเลย 555
ไม่ว่าจะอายครีมถูกหรือแพงก็เอาไม่อยู่จริงๆ จ้า ปีนี้เลยขออัพความสวยซะหน่อย
ด้วยการไปฉีด”ฟิลเลอร์ใต้ตา”เพื่อจบปัญหานี้ซะที

AdobeLightroom_3AdobeLightroom_0

ส่วนคลินิกที่ออยไปฉีดคือที่ Napassaree clinic (นภัสรีย์​ คลินิก)
ออยเลือกที่นี่เพราะว่าก่อนมาทำได้ดูรีวิวและศึกษามาแล้วว่า
เค้าใช้ฟิลเลอร์อันดับหนึ่งแท้แบรนด์ระดับโลก มีรางวัลจากบริษัทฟิลเลอร์การันตี
ปลอดภัยแน่นอน มีดารามาทำที่นี่กันหลายคนมากด้วยนะ

ก่อนเข้ารับการรักษามาถึงคลินิกพนง.เค้าจะให้กรอกข้อมูลก่อนนะคะ
พี่ๆ ที่นี่น่ารักมาก พูดจาดีและยิ้มกันทุกคนเลย
พอกรอกข้อมูลของเราเรียบร้อยแล้วก็รอคิวจ้า

DSC0910320200108430349860133371369

ก่อนที่จะฉีดกันคุณหมอจะแนะนำเราก่อนว่าที่ใต้ตาเราลึกแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไร
คุณบอกว่าเป็นเพราะเกิดจากกระดูกเบ้าตาของเรานั้นกร่อนตัวลง
ตัวไขมันที่อยู่ด้านล่างก็ฝ่อตัวลงไปด้วยหรือผิวหนังที่มีอายุผิวที่มากขึ้น ความตึงรอบดวงตา
และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน้อยลงเลยทำให้เกิดร่องด้านล่างและมีถุงใต้ตาด้านบนนั้นเองค่า

ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าใต้ตาทั้ง 2 ข้างจะลึกไม่เท่ากันด้วย ข้างซ้ายจะลึกกว่าต้องเติมเยอะหน่อย
ส่วนตัวฟิลเลอร์ที่คุณหมอฉีดให้ในวันนี้ก็คือ Juvederm Volbella
อยู่ได้นาน 1 ปี สะลายได้ 100% ปริมาณที่ใช้คือ 1 CC ค่า

202001081217726570734909854

ให้ชมห้องห้องที่จะเติมความสวยกันในวันนี้ค่า ห้องสะอาดมาก

AdobeLightroom_6

ใครที่กลัวเข็มก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บนะ
เค้ามีโปะยาชาให้ค่ะ สบายใจได้ค่า

AdobeLightroom_1
มาถึงขั้นตอนการฉีดกันนะ เอาจริงๆ ก็แอบกลัวกับการฉีดใต้ตามากๆ
เพราะเป็นมันเป็นจุดที่ค่อนข้างบอบบางสำหรับออยเลยอ่ะ นี่นั่งเกรงแทบตายแต่พอเอาเข้าจริงๆ
คุณหมอเค้ามือเบามาก ไม่เจ็บเลย พยายามฉีดให้ใต้ตาเราไม่ช้ำและออกมาสวยที่สุด

ให้ดูรูปเปรียบเทียบระหว่างก่อนฉีดและหลังฉีดทันทีว่าใต้ตาฉันตื้นขึ้นแล้วจ้าาาา
ดูเป็นธรรมชาติ ไม่อูม ไม่เป็นก้อนเลย ตกใจอ่ะ! คุณหมอฉีดสวยมาก
แต่มันจะรู้สึกปวดๆ บวมๆ นิดหน่อยแค่ตรงทางเข้าเข็มเท่านั้นค่ะ
ซึ่งคุณหมอแจ้งแล้วว่าระยะเวลาประมาณ 3-7 วันถึงจะหาย

พอฉีดเสร็จก็คือชิลล์ต่อได้สบายมาก แต่ห้ามโดนน้ำ 3 ชั่วโมงน๊า

Adobe_Post_20200108_2027250.9991047006314421
DSC09225

ส่วนรูปนี้คือ 6 ชั่วโมงหลังฉีดไปแล้ว
จะเห็นได้เลยว่าพอเติมฟิลเลอร์เข้าไปแล้วหน้าดูสดใส ไม่แพนด้า ไม่ดูโทรมดูเหนื่อย
เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เย้ ดีใจมากกกกก  หลังจากฉีดไป 1 วันทางคลินิกก็โทรมาสอบถามอาการ
ของเราว่าเป็นยังไงบ้าง มีอาการบวมช้ำมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีปัญหาตรงไหนสามารถแจ้งคลินิกได้ทันทีค่ะ

1

หลังฉีดครบ 5 วันตรงบริเวณที่เป็นทางเข้าเข็มก็ค่อยๆ ดีขึ้นมาแหละ
ตรงนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับออยนะ ใช้พวกคอนซีลเลอร์กลบได้อีกวันสองวันก็หายเป็นปกติแล้วค่ะ

page1

ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ในครั้งนี้ ขอบอกว่าประทับใจมากกกกก
ทำให้เวลาแต่งหน้าเราก็ไม่ต้องโบกคอนซีลเลอร์หนาๆ ใต้ตาอีกแล้ว
ถ่ายรูปออกมาหน้าก็ไม่ดูป่วย ดูโทรมแล้วด้วย ฮืออออ รู้งี้มาฉีดตั้งนานแล้วจริงๆ 555
คุณหมอมือเบาจริงๆ อันนี้คอนเฟิร์มเลย ฉีดสวยด้วย ดูเป็นธรรมชาติดี ฉีดเหมือนไม่ได้ฉีดอ่ะ
ส่วนคุณหมอที่ฉีดให้ออยคือคุณหมอส้มค่า ประสบการณ์ปรับรูปหน้ากว่า 1,000 เคสเชียวนะ
คุณหมอน่ารัก ให้คำแนะนำดี

AdobeLightroom_2

202001081285823485778644129-01

ใครที่สนใจก็สามารถเข้ามาปรึกษากับทางแพทย์ของคลินิกก่อนได้นะคะ
ส่วนของตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ มีบริการอย่างอื่นด้วยเน้อ
กดสิวแค่ 200 บาทเองอ่ะ

ช่องทางติดตาม
Facebook page : Napassareeclinic
Website : http://www.napassareeclinic.com/
Line ID : @Napassareeclinic
IG : Napassareeclinic

มีบริการ 2 สาขา
สาขา อ่อนนุช 062-457-9922
ตั้งอยู่ที่อาคารไอดิโอโมบิ สุขุมวิท ติด BTS อ่อนนุช
สาขา จามจุรีสแควร์ 098-259-9880
ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 อาคาร จามจุรีย์สแควร์ ติด MRT สถานีสามย่าน

 

Review+Swatch Peripera Ink Airy Velvet Stick

หน้าปก

สวัสดีค่า กลับมาพบกับออยอีกเช่นเคย
แอบมารีวิวในจีบันบ่อยมากเพราะมีของเล่นให้ได้ลองเยอะเลย รอบนี้เลยเอาลิปสติกเนื้อแมทท์มารีวิวบ้าง
หลายๆ คนคงจะรู้จักแบรนด์เกาหลีนี้กันดีอยู่แล้วเนอะกับน้อง Peripera ที่ไม่ว่าออกเครื่องสำอางมาแต่ละครั้ง ก็น่าสอยไปหมดเลย อย่างวันนี้ออยเอา Peripera Ink Airy Velvet Stick มารีวิวและสวอชสีให้ดูทั้ง 7 สีเลยจ้า จะบอกว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นโปรดของออยเลยอ่ะ เพราะปกติออยจะชอบใช้แบบแท่งมากกว่า
แต่เวลเวทแบบจิ้มจุ่มก็ใช้นะ ซื้อมาหลายสีเหมือนกัน ออยว่าเค้าจัดโทนสีมาสวยดีนะ
เอาเป็นว่าเราไปดูรีวิวสวยๆ กันเลยยยย

ก

ตัวนี้เป็นลิปสติกเนื้อแมทท์กำมะหยี่ที่มาในรูปแบบแท่ง
เนื้อบางเบานุ่มๆ ไม่หนักปากเลย เม็ดสีแน่นมากๆ ทาง่ายไม่ตกร่อง
ผสมสารบำรุงไม่ทำให้ปากเราหมองคล้ำด้วยนะจ๊ะ
แต่สำหรับคนปากแห้งแนะนำให้ทาลิปบำรุงก่อนเพราะเนื้อค่อนข้างที่จะแมทท์มาก
เพื่อให้ติดทน ไม่เป็นขุยควรบำรุงก่อนน๊า

ฆข

เรื่องโทนสีออยประทับใจแบรนด์ตรงที่เค้ามีให้เลือกตั้งแต่โทนน้ำตาล นู๊ดส้มไปจนถึงนู๊ดชมพูดเลย
แต่ถึงจะเป็นโทนนู๊ดก็นู๊ดแบบไม่ป่วยนะ ออยชอบมาเอาเบอร์อ่อนๆ มาทาลงตรงขอบปาก
พอไปผสมกับสีเข้มแล้วคือยืนหนึ่งไปเลย สวยมากกกกก

พูดถึงโทนสีที่ออยรีวิวจะเป็นเฉดสีเก่าทั้งหมดนะคะ
ตั้งแต่เบอร์ 01-08 ส่วนสีใหม่ตั้งแต่เบอร์ 09-12 (ถ้าซื้อได้ครบไว้จะมารีวิวจ้า)

คจ

เรามาดูสวอชแต่ละสีกันบ้างน๊า

01 Coral Marshmallow เริ่มจากสีแรกเป็นเบอร์ที่ออยใช้บ่อยมากๆ จะออยนู๊ดน้ำตาลที่แบบถ้าใครต้องแต่งหน้าโทนนู๊ดคือต้องมีสีนี้อ่ะ ทายังไงก็รอดเพราะขนาดออยผิวสองสียังทาแล้วไม่ดูป่วยเลย

1-1111

02 Pink Milk Tea สีนี้จะออกโทนนู๊ดชมพูที่แบบน่ารักมาก แอบคุณหนูเบาๆ ทาแล้วไม่ป่วยอีกเหมือนกัน
เอาไว้ทาแบบ Everyday Look ได้อยู่นะ เบลนๆ ตรงขอบปากจะดูเป็นธรรมชาติมาก

2-2222

03 Orange Cookie เป็นโทนนู๊ดส้มที่ต้องบอกบอกว่าสวยมาก
นางช่วยขับผิวให้หน้าดูสว่างขึ้นด้วย สายเกาต้องจัดสีนี้เลย

3-3333

04 Bestie Pink โทนนู๊ดอีกเหมือนกันแต่เป็นสีชมพูนมหวานๆ ที่เพิ่มเลเวลาความเข้มขึ้นมานิดนึง
เป็นสีที่น่ารักมากๆ ถ้าแต่งหน้าโทนชมพูแบบเบาๆ แล้วทาสีนี้ตามคือดีย์เลยอ่ะ

4-4444

05 Burnt Tangerine สีโปรดที่ไม่ว่าจะแต่งหน้ายังไงคือต้องมีสีนี้กันตายไว้ก่อน 555
จะออกส้มอิฐนิดๆ ใครที่ชอบโทนนี้ต้องเลิฟแน่นอน ทาได้ทุกสีผิวเลย

5-5555

06 Daily Rose สีนี้ก็น่ารักน๊า ให้ฟิลล์แบบสาวขี้เล่นแก่นๆ 555
ออยว่าสีนี้เหมาะกับการแต่งหน้าไปทำงามากนะ ลุคแบบสาวมั่นแต่มีความอ่อนหวานอยู่นิดๆ ไรงี้

6-6666

07 Cinnamon Chai Tea สีนี้จะเป็นส้มอิฐที่แท้ อยากบอกว่าเป็นสีโปรดอีกแล้ว 5555
เอาจริงเป็นสีที่ใครๆ ก็รักอ่ะ ไม่ว่าผิวไหนทาแล้วคือยืนหนึ่งทุกคนและไม่ว่าแต่งลุคไหนก็รอด สวยจริง

7-7777

08 Warmy Red แดงสดมากจ้า ไม่ว่าจะสายฝ.ก็ทาสีนี้ได้ดูเปรี้ยวๆ เฉี่ยวๆ ดี
หรือสายเกาเบลนๆ ให้ขอบปากฟุ้งๆ แบบออยก็สวยนะ ขับผิวให้หน้าดูสว่างขึ้นไปอีกอ่ะ

8-8888

จบไปแล้วกับการสวอชทุกสี แอบปากช้ำอยู่เหมือนกัน อิอิ
ถ้าใครชอบสีไหนลองไปเล่นกันก่อนได้น๊า แต่อยากบอกว่าควรมีไว้ในกรุสักแท่งเนอะ
นอกจากแพคเกจที่ดูน่าซื้อแล้วสีก็ยังสวยด้วย
ออยว่ารีวิวรอบนี้ไปก็จะไปตำอายแชโดว์ของเค้ามาเพิ่มอีกเหมือนกัน
ช่วงนี้ติดแบรนด์ของเกาหลีมาก หมดเงินไม่เป็นไรแต่ของมันต้องมีอ่ะเนอะ

สำหรับรุ่นนี้ราคาอยู่ที่แท่งละ 420 บาท
เบอร์ 01-08 คือเฉดสีเก่า
เบอร์ 09-12 คือเฉดสีใหม่

ฉ

รีวิวเปิดกรุเครื่องสำอางที่ใช้แล้วชอบ

11

สวัสดีค่าทุกคน วันนี้มาเปิดกรุถึงเครื่องสำอางที่ออยใช้กันบ้างเนอะ เพราะปกติไม่ค่อยออกมาทำรีวิวแบบนี้เท่าไรแต่หลังจากที่ลองใช้แล้วมันดีเลยอยากเอามาบอกต่อทุกคนกัน คัดมาเรียบร้อยถูกแพงปนกันไปเนอะ มีทั้งตัวที่ออกมาใหม่และตัวที่ออยใช้มานานจนสภาพเยินมากแล้ว 555
เราไปดูกันว่าแต่ละตัวดียังไงใช้แล้วรอดมั๊ย จะพยายามบอกให้ละเอียดที่สุดนะคะ
DSC02095-01

เริ่มกันที่ตัวรองพื้นก่อนเลยเนอะ

Maybelline Fit Me
ออยใช้ตัวนี้มาตั้งแต่รุ่นเก่ายังไม่มีหัวปั๊มอ่ะ ชอบและใช้อยู่จนถึงตอนนี้คือเนื้อไม่หนามีความบางเบาและปกปิดรอยได้ดีพอมันเซตตัวแล้วแทบไม่ต้องลงแป้งเลยและสีที่มีขายเบอร์ก็เข้ากับผิวคนไทยด้วย อย่างของออยใช้เบอร์ 220 คือพอดีกับผิวหน้าเลย
Naked Stay : ขยับมาหลักพันกันบ้างกับรองพื้นตัวใหม่ของ Urban Decay อันนี้ออยซื้อตามรีวิวมาอีกทีเพราะเกือบทุกคนใช้แล้วบอกว่ามันดีจริงซึ่งเราก็ลองแล้วมันก็ดีจริงๆ แหละ เนื้อบางเบากว่าน้องเมย์ละก็ไม่ได้ปกปิดพวกรอยแดงได้กริบอย่างที่คิดไว้เท่าไรเหมาะกับเน้นงานธรรมชาติงานผิวสวยมากกว่าส่วนเรื่องเฉดสีคือขาวไปหน่อย เสียใจทีเลือกสีมาผิดแต่เวลาใช้จริงก็เอามาผสมกัน แนะนำว่าถ้าใครซื้อต้องเลือกเฉดสีดีๆ น๊า

1

Lin Super Perfect Powder Foundation
แป้งอัดแข็งผสมรองพื้นตลับชมพูของลินที่เห็นมีคนรีวิวเยอะเหมือนกันเลยลองบ้าง
เอาจริงๆ ตอนซื้อมานึกว่าทาแล้วจะหนักหน้าแต่พอได้ลองคือเนื้อแป้งบางเบาไม่หนักหน้าเลย ให้ลุคที่แมทท์ได้ทั้งวันแต่ผิวดูเป็นธรรมชาติมากไม่โป๊ะ เหมาะกับ Everyday Look ที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน การปกปิดอยู่ระดับกลางๆ กันเหงื่อได้ดีไม่เป็นคราบระหว่างวันที่สำคัญคือผิวแพ้ง่ายใช้ได้
ตัวตลับเค้าน่ารักดีนะ สีชมพูปุ๊กปิ๊กมาก ราคาไม่แรง 299 บาทเท่านั้น คุ้ม
ดูเพิ่มเติมได้ที่เพจ LIN Thailand เลยจ๊ะ

3

ภูมิใจนำเสนอกับอายไลเนอร์ตัวนี้ของ Melynn เค้าจริงๆ นะ
ถามว่าทำไมชอบคือบอกเลยว่าเขียนง่ายที่สุดในบรรดาอายไลเนอร์ทั้งหลายที่เคยใช้มาเลย
กันน้ำกันเหงื่อเริ่ด น้ำหมึกก็ออกมาสม่ำเสมอดีและให้เส้นที่คมและดำสนิทมาก
ขึ้นแท่นลูกรักประจำตระกูลไปแล้วจ้า

4

มาถึงอายแชโดว์ตัวโปรดกันบ้าง แนะนำ 2 พาเลทนี้เลย
4U2 Look At Me : ถูกและดีที่แท้จ้า Dupe พาเลท Naked Heat ได้เลย 4U2 ทำอายแชโดว์ออกมาดีมาก เนื้อนิ่ม เบลนง่ายมีทั้งแมทท์และชิมเมอร์ สีแน่นชัดโดยเฉพาะชิมเมอร์คือสวยมากความวิ๊งระดับสิบไปเลย ตั้งแต่ซื้อมาใช้พาเลทนี้ตลอด พกง่ายด้วยเพราะตลับไม่ใหญ่ รู้สึกว่าทางแบรนด์จะทำมาทั้งหมด 6 เฉดสี ไปตามสอยกันได้ ราคา 299 บาท
NYX Ultimate Edit : เวลาไปต่างจังหวัดออยจะเอาพาเลทกันตายตลับนี้ไปด้วยตลอดเลยเพราะชอบโทนสีที่แต่งง่ายจะลุคเกาหลีหรือสายฝ.ก็ได้อ่ะ แต่พิกเม้นท์ออยว่าไม่แน่นเท่า 4U2 นะคะ ในตลับมีทั้งหมด 6 สี
เรื่องราคาก็ไม่ได้ต่างกันมากด้วยถูกและดีเหมือนกันจ้า รักทั้งสองตัว

5

ถ้าพูดถึงมาสคาร่าออยให้แบรนด์ของเกาหลีที่หนึ่งเลยนะ อย่าง 2 ตัวนี้ที่ปัดแล้วขนตาเด้งทั้งวัน
Lilybyred : ออยซื้อตามรีวิวมาพอลองใช้แล้วคือดีอยู่เหมือนกัน ปัดแล้วไม่เป็นก้อนไม่แพนด้าสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ดีใช้ได้เลยแหละ เรื่องความเด้งก็เริ่ดนะแต่หัวแปรงแอบใช้ยากไปนิดนึงขอตัดแต้มตรงนี้แต่อย่างอื่นคือดีจริง ใครขนตาน้อยและสั้นแนะนำตัวนี้เลยจ้า
Peripera : ตัวนี้ซื้อมาขำๆ แต่ก็ไม่คิดว่านางจะใช้ดีเหมือนกันคือยกขนตาให้เด้งได้ทั้งวันเลยและไม่ได้ใช้เฉพาะขนตานะ ออยเอามาปัดขนคิ้วด้วยฟูได้ใจมาก ปลาบปลื้ม

6

มาพูดถึงบลัชออนที่ไม่ว่าจะแต่งลุคไหนก็ปัดได้อย่าง Clinique สีใหม่อย่าง Passy Pop ชมพูนมน่ารัก
ปัดแล้วให้ฟิลล์คุณหนูมาก ผิวดูสุขภาพดีเหมือนสาวเกาหลีเลยอ่ะ
แต่สีนี้อาจไม่เหมาะกับสาวผิวเข้มเท่าไรไม่งั้นมันจะดูโดดเกินไป
และอีกตัวนึงคือบลัชออนของ NYX สี Risky Business สีแดงตุ่นๆ ปัดแล้วแก้มดูเลือดฝาดเบาๆ
สีสวยมากๆ ถ้าใช้แต่ง Everyday Look อาจจะต้องปัดให้เบาที่สุดนะ เพราะเนื้อค่อนข้างแน่นและเม็ดสีก็ชัดด้วย
ข้อเสียอย่างเดียวของพาเลทนี้คือเปิดยาก 55555

7

Essence Hey Cheeks บอกเลยว่าพาเลทนี้คุ้มจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วจ้า
รวมทั้งไฮไลท์ บลัชออนและคอนทัวร์ไว้ในพาเลทเดียว
ออยชอบใช้บลัชออนกับไฮไลท์เค้ามาก ปัดละหน้าพุ่งเลย
ส่วนบลัชออนมีทั้งแมทท์และชิมเมอร์แต่ส่วนใหญ่ออยจะใช้แมทท์
ให้อารมณ์แบบผิวใสดูสุขภาพดีเป็นสีที่เข้ากับทุกผิวเลยแหละ
คุ้มมากๆ ต้องมีในกรุนะ เวลาไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศพกตัวนี้ไปก็สบายกระเป๋าคสอ.ไปเกือบครึ่งเลย

8

คอนทัวร์ของ Wet N Wild เห็นสภาพขนาดนี้คิดว่าคงไม่ต้องพูดเยอะแล้วเพราะออยใช้จนหมดตลับจริงๆ
ออยชอบสีคอนทัวร์ของเค้าที่ไม่เข้มและไม่อ่อนเกินไปอ่ะ ดูเป็นธรรมชาติที่แบบสามารถใช้ได้ทุกวัน
เป็นอีกตัวที่ออยชอบมากจริงๆ ไม่เคยใช้ตัวไหนจนหมดแบบนี้มาก่อนเลย

9

สุดท้ายขอรวมลิปโทนแดงตุ่นๆที่ปลาบปลื้มและขึ้นแท่นรักประจำตระกูล
ส่วนใหญ่ออกจะชอบใช้แบบแท่งสติ๊กมากกว่าแบบจิ้มจุ่มนะ
ถ้าถามว่าในบรรดาทั้งหมดนี้ชอบตัวไหนสุดก็คงยกให้ Lancome เลย
ใช้จนจะหมดแท่งแล้วคือเนื้อแมทท์แบบได้ใจมากและโทนสีก็สวยที่ไม่ได้แดงจ๋าแต่จะติดส้มมาด้วย
เวลาทานางทำให้หน้าเราดูสว่างขึ้นไปอีกอ่ะ ส่วนตัวอื่นๆ ก็เนื้อดีไม่แพ้กันก็ใช้สลับกันไป
แต่จะเห็นได้ว่า Peripera INK Airy Stick สี 01 มันไม่ใช่โทนแดงอะไร
แต่เป็นตัวที่ออยเอาไว้ทาเก็บขอบปากที่คล้ำนั่นเองจ้า

10

ใครใช้ตัวไหนแล้วใช้ดีมาแบ่งปันกันได้น๊า
เผื่อซื้ตามบ้างเพราะส่วนใหญ่ตัวที่ซื้อมาคือได้จากรีวิวทั้งนั้นเลย อิอิ

วันนี้ออยก็ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านนี้นะคะ
ครั้งหน้ามีไอเท็มอะไรใหม่ๆ มาแนะนำอีก
รอติดตามกันได้นะคะ ขอบคุณค่า

รีวิว : อัพเดตของเล่นใหม่ลิป 4 แยก Mistine Color Playground

1

สวัสดีทุกคนค่า วันนี้ออยมีของเล่นใหม่มาฝากเพื่อนๆ กันอีกแล้ว ช่วงนี้มิสทีนออกไอเท็มน่าตำมาเยอะมากและออยก็รีวิวไปหลายตัวแล้วด้วยแต่รอบนี้มาจัดลิปแท่งใหม่ล่าสุดของแม่อั้มกันค่า “Mistine Color Playground” เป็นลิป 4 แยก 4 เฉดสีในแท่งเดียวที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถผสมสีได้มากกว่า 1,000 เฉดสีเลย คือแบบ โหหห เกินมาก ซื้อแท่งเดียวแต่ผสมสีได้เยอะขนาดนี้ คุ้ม!!!

6

เอาจริงออยชอบตัวแพคเกจที่เค้าทำออกมาน่าใช้มากๆ อ่ะ สีสันฉูดฉาดแต่น่ารัก มีความไล่สีเบาๆ ดูไม่ก่องแก่ง ส่วนสีของลิปจะแบ่งออกเป็น 2 เฉดนะคะ ซึ่งมันดีและเก๋สุดคือในหนึ่งแท่งจะมีทั้งหมด 4 สีที่เราสามารถผสมเองได้ ถ้าใครไม่รู้ว่าจะผสมยังไงด้านหลังซองจะมีตัวอย่างการผสมสีให้อยู่ค่ะ หรือจะมิกซ์เองได้ตามชอบเลย คำแนะนำเวลาใช้คือให้ใช้แปรงสำหรับทาลิปหรือมือแตะแทนการปาดไม่งั้นทุกสีจะผสมกันหมดเลยอาจจะเลอะได้ค่ะ

23

14

เนื้อลิปพอทาแล้วจะออกเป็นเนื้อ Creamy เกลี่ยง่าย ไม่แมทท์เกิน ง่ายต่อการผสมมีความชุ่มชื้นสบายปากและไม่ตกร่องเหมาะกับคนปากแห้งมากๆ ค่ะ ในเรื่องของสีก็มีความชัดและความติดทนอยู่เหมือนกันนะ
สี 01 Colorful จะออกโทนแดง ส้มและชมพู เป็นโทนที่สามารถใช้ทาได้ทุกวัน
สี 02 Neon แนวนีออนสมชื่อทั้งเขียว ส้ม ม่วงและชมพู ทาไปเรียนหรือทำงานได้แค่บางสีเท่านั้น แนะนำให้มิกซ์โลดเลยค่ะ

513

ออยเอาตัวอย่างการมิกซ์สีของออยมาฝากด้วยนะ ขอบอกว่าสนุกมาก จะทาเดียวๆ หรือผสมสีก็สวยดีนะคะ
ส่วนตัวชอบเบอร์ 02 Neon มาก ออยว่ามันสามารถผสมสีได้เยอะกว่า 01 ถึงแม้สีอาจจะดูไม่ค่อยเหมาะกับการทาในชีวิตประจำวันเท่าไหรแต่พอเอามามิกซ์กันแล้วคือดีสีไม่เพี้ยนไม่ประหลาดแน่นอน

9

สีนี้เป็นสีที่ผสมออกมาแล้วออยชอบมาก คือเอาสี 01 กับ 02 มาผสมกันก่อนจากนั้นก็ตามด้วย 04 ทับลงไปอีกทีเหมาะกับ Everyday Look มากๆ ทาบางๆ ปากดูสุขภาพดีสุด

810

ถามว่าคุ้มแก่การซื้อมั๊ย บอกเลยว่าคุ้มมาก
ทำให้การทาลิปเป็นเรื่องสนุกไปเลยและเป็นลิปที่ทาง่าย มือใหม่ก็ผสมเองได้แบบชิลล์ๆ เลยค่ะ
แถมเหมาะแก่การพกเดินทางด้วย ไม่ต้องเอาลิปไปหลายๆ แท่งให้หนักกระเป๋า แต่แอบบอกนิดนึงว่าสีอาจจะไม่ต้องปกตามตัวอย่างซะทีเดียวนะคะ เข้มหรืออ่อนขึ้นอยู่กับสีปากของแต่ละคนด้วย
ถ้าใครอยากลองสามารถหาซื้อได้ที่แค็ตตาล็อกมิสทินหรือ Eveandboy
แท่งละ 159 บาท

วันนี้ก็ต้องขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ แล้วเจอกับรอบหน้าค่า

4