นาย Arafat ผู้นำ PLO
อาราฟัต เข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตั้งแต่สมัยที่ยังศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งกษัตริย์ฟาฮัดที่ ๑ ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ และได้เข้าร่วมเป็นทหารในกองทัพอียิปต์เมื่อครั้งสงครามคลองสุเอซ ในปี ค.ศ.๑๙๕๖ จากนั้นได้ไต่เต้าขึ้นมาสู่ตำแหน่งสำคัญๆ ในองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในที่สุด
อาราฟัต พยายามอย่างยิ่งในการแสดงให้ชาวโลกยอมรับการมีตัวตนของชาวปาเลสไตน์และ พยายามแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรม ในการกอบกู้ดินแดนของชาวปาเลสไตน์คืนจากอิสราเอล เขาใช้ทุกวิถีทางแม้ กระทั่งใช้ความรุนแรงทางทหารรวมทั้งการก่อการร้ายเหตุการณ์ที่เป็นที่จดจำของชาวโลกมากที่สุดครั้งหนึ่งคือการจับนักกีฬาชาวอิสเราเอลเป็นตัวประกัน ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี ๑๙๗๒ ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ขบวนการกันยาทมิฬ”(Black September)
กลุ่มผู้ก่อการร้ายบุกเข้าสังหารนักกีฬาอิสราเอลในหมู่บ้านักกีฬา
อิสราเอลไม่พอใจอย่างมากที่คณะกรรมการโอลิมปิกทำเพียงแค่
ลดธงครึ่งเสา แล้วก็แข่งขันกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พาดหัวข่าวของ New York Times ถึงเหตุการณ์ในมิวนิค
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มนักรบปาเลสไตน์บุกเข้าหอพักนักกีฬาโอลิมปิก พร้อมกับจับตัวนักกีฬาชาวอิสราเอลจำนวน ๑๑ คนเป็นตัวประกัน โดยพวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษการเมืองชาวปาเลสไตน์ ๒๓๔ คน และอีก ๒ คนที่ถูกคุมขังอยู่ที่เยอรมัน พร้อมทั้งร้องขอเครื่องบินเพื่อเตรียมหลบหนีเข้าอียิปต์
อิสราเอล นำโดยนางโกลดา เมียร์ (Golda Meir) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นซึ่งดำเนินนโยบายแข็งกร้าวต่อปาเลสไตน์และไม่ยินยอมเจรจากับผู้ก่อการร้าย ปฏิเสธข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ก่อการ และยังส่งหน่วยรบพิเศษที่เชี่ยวชาญในการชิงตัวประกันเข้ามาช่วยเหลือ แต่รัฐบาลเยอรมันปฏิเสธ เนื่องจากต้องการจัดการสะสางปัญหาด้วยตนเองเพื่อรักษาหน้าของเจ้าภาพ โอลิมปิก หรืออีกประเด็นหนึ่งที่เป็นนัยยะแอบแฝง นั่นคือคือรัฐบาลเยอรมันต้องการแสดงความรับผิดชอบและลบล้างความผิดสมัย สงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวนั่นเอง
สตรีเหล็กของอิสราเอล นาง Golda Meir
ผู้ออกคำสั่งปฏิบัติการลับจัดการเสี้ยนหนามของประเทศ
ภาพยนตร์เรื่อง Munich ผลงานของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก
ถ่ายทอดเรื่องราวเหตุการณ์ในโอลิมปิกที่มิวนิค
แต่ปฏิบัติการของทีมช่วยเหลือของเจ้าภาพผิดพลาด พลแม่นปืนของเยอรมันทำพลาดจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เมื่อตัวประกันเสียชีวิตหมดทั้ง ๑๑ คน ตำรวจเยอรมันเสียชีวิต ๑ นาย ผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต ๕ ราย ถูกจับเป็น ๓ ราย … (โปรดติดตามตอนต่อไป)
ขอบคุณนะคะ
คุณเขียนได้ดีมาก เข้าใจเป็นลำดับ หลังจากที่ผมค้นหาข้อมูลแบบนี้(เพื่อนำมาเขียนpocket bookเล่มใหม่)มานานหลายเดือน ที่อื่นไม่ได้ให้ข้อมูลเรียงลำดับชัดเจนเท่าคุณ เยี่ยม /ภา
เป็นความรู้และข้อมูลที่เยี่ยมมากๆเลยครับ
สนุกดี หมายถึงเรื่องราวหมือนถูกแต่งขึ้น