“ เพราะว่าพระคำที่พระเจ้าทรงตรัสนั้นมีชีวิตอยู่และเต็มด้วยฤทธิ์อำนาจ [ ทำให้กระตือรือร้น ทำการ มีพลัง และมีประสิทธิภาพ ] ” (ฮีบรู 4:12 แปลจากฉบับภาษาอังกฤษ AMPC)

     พระคัมภีร์ให้รายละเอียดเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ป่วยเป็นเวลา 38 ปี และถูกวางไว้ข้างสระเบธซาธา ที่สระนั้นเป็นจุดนัดพบของมนุษยชาติที่แตกสลาย รอคอยการกวนน้ำของทูตสวรรค์ คนแรกที่ลงไปหลังจากที่น้ำถูกกวนจะหายจากโรคที่เขามี อย่างไรก็ตามชายคนนี้ไม่สามารถที่จะลงไปได้ และเมื่อพระเยซูทรงพบเขา พระองค์ก็ถามว่า “…ท่านอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?” (ยอห์น 5:6)

แทนที่จะยืนยันทันทีว่าเขาต้องการหายดี เขาก็เริ่มบ่นกับพระเยซูและคร่ำครวญว่าไม่มีใครช่วยเขาลงไปในสระ (อ่านยอห์น 5:7) โดยไม่สนใจต่อคำบ่นของเขา องค์จอมเจ้านายจึงกล่าวแก่เขาว่า “ลุกขึ้นเถิด จงยกแคร่ของท่านเดินไป” (ยอห์น 5:8) พระคัมภีร์กล่าวว่า “ทันใดนั้นเขาก็หายเป็นปกติและยกแคร่ของเขาเดินไป…” (ยอห์น 5:9)

คราวนี้ทำไมชายคนนี้จึงไม่บ่น แต่ทำทันทีที่พระเยซูตรัสว่า “ลุกขึ้นเถิด จงยกแคร่ของท่านเดินไป” นี่เปิดเผยสำแดงให้เห็นถึงฤทธิ์อำนาจแห่งพระคำของพระเจ้า! มีบางอย่างเกี่ยวกับคำพูดของพระเยซู พระองค์ตรัสใน ยอห์น 6:63 ว่า “…ถ้อยคำที่เรากล่าวกับพวกท่านมาจากพระวิญญาณและเป็นชีวิต” ด้วยถ้อยคำของพระเยซูชีวิตได้แผ่ซ่านเข้าไปในแขนขาที่ตายแล้วและร่างกายที่เป็นอัมพาตของชายคนนั้น และก่อนที่เขาจะสามารถคิดได้ เขาก็กำลังยืนอยู่ ได้รับการรักษาด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า! นั่นคือฤทธิ์อำนาจแห่งพระคำในการสำแดง จงระลึกไว้ว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระเยซูเป็นใครในเวลานั้น (ยอห์น 5:12-15)

ในการประชุมเพื่อการรักษาโรคของเรา หลายคนเป็นพยานถึงเสียงที่บอกให้พวกเขาเดินหรือทำในสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ เนื่องจากความเจ็บป่วย โรค หรือความอ่อนแอของร่างกาย ช่วงเวลาที่พวกเขาทำตามคำพูดที่พวกเขาได้ยิน ความมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นไม่ว่ากรณีใด พวกเขาไม่ต้องหาเหตุผลกับเสียงนั้น พวกเขารู้ว่ามาจากพระเจ้าและทำตามจากวิญญาณของพวกเขา

นั่นเป็นวิธีที่จะตอบสนองต่อพระคำของพระเจ้า นั่นคือมาจากและด้วยวิญญาณของคุณ! พระคำของพระเจ้าถูกส่งไปยังวิญญาณมนุษย์ ไม่ใช่ศีรษะหรือความคิด พระองค์ทรงรู้ว่าพระคำในวิญญาณของคุณซึ่งผสมกับความเชื่อจะเกิดผลอย่างแน่นอน

คำอธิษฐาน